วันที่ 5 ก.พ. 68 ที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด ตลิ่งชั่น นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการรื้อ คดีแตงโมว่า ในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 17 ก.พ. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะไปรับโทรศัพท์มือถือของแตงโม ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดย พ.อ.นายแพทย์ ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา นำโทรศัพท์จากบังแจ็ค ให้ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ หลังจากที่ส่งโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูล เนื่องจากพบว่ามีข้อมูลบางอย่างถูกลบออกไป และสามารถกู้คืนมาได้
นาย อัจฉริยะ ยืนยันว่า มีหลักฐานสำคัญที่สามารถกู้มาได้ เป็นภาพของแตงโมในช่วงก่อนเกิดเหตุ และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ที่มีใครบ้าง ที่โทรศัพท์หาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งในนั้นมี น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทรศัพท์ไปหาแตงโมในวันเกิดเหตุเวลา 20.40 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่แตงโมจะเสียชีวิตตามรายงานในสำนวนของตำรวจ จึงทำให้สงสัยว่าช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ด้วยกันแท้ๆ ทำไมจึงต้องโทรศัพท์หากัน
นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองดังเคยแชตไปขอภาพลับของแตงโมด้วย แต่นักการเมืองคนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์การเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นได้มีการสำรองข้อมูลไว้ 2 ชุดแล้ว เพื่อป้องกันหากมีการแทรกแซงของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะยังมีความเห็นกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีของแตงโมว่า ตนเองพยายามพิสูจน์ความจริงมานาน 3 ปี แต่ทำไมนายมงคลกิตติ์จึงเพิ่งจะมาแสดงความเห็นตอนนี้ ทั้งที่ในช่วงหลังจากเกิดเหตุใหม่ๆ นั้นก็เหมือนจะยื่นมือมาช่วยกันคลี่คลายคดี แต่สุดท้ายก็ช่วยไม่จริง ภายหลังดูเหมือนกับว่าจะไปเข้าข้างคนบนเรือด้วยซ้ำไป ซึ่งทีมงานของตนเองก็ได้มีการประชุมกัน โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ได้ประกาศห้ามนายมงคลกิตติ์เข้าบ้านพระอาทิตย์เด็ดขาด
Advertisement