ผู้นำบีจีเอฟรับเสียรู้จีนเทา บอกทำกาสิโน แต่เป็นศุนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ผู้นำบีจีเอฟ ยอมรับเสียรู้จีนเทา แจ้งทำกาสิโน-สถานบันเทิง สุดท้ายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วอนรัฐบาลไทยทบทวนคำสั่งตัดไฟ-น้ำมัน ชาวเมียนมาเดือดร้อน
นับเป็นครั้งแรกที่ พันโทหน่าย หม่องโซ รองผู้บังคับกองพันบีจีเอฟ (กองกำลังพิทักษ์ชายแดน) ประจังหวัดจำเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จังหวัดตาก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าและพูดถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทาในเมืองเมียวดีนั้นว่า ในช่วงแรกๆกลุ่มทุนจีนที่ไปลงทุนขอเสนอใช้พื้นที่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟนั้นไม่ได้บอกว่าจะไปทำคอลเซ็นเตอร์ แต่แจ้งว่าทำกาสิโน-สถานบันเทิง และที่รับการดูแลคุ้มครองให้พื้นที่ใช้ เพราะอยากให้พื้นที่ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง มีการพัฒนาประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีงานทำ แต่พอนานเข้าเริ่มมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ฝ่ายบีจีเอฟเองไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เดียวได้ ส่วนรายได้ที่ได้มาจากนักลงทุนจีนนั้น นำไปพัฒนาถนนและสะพานสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อประชาชน จึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
คอนเทนต์แนะนำ
พันโทหน่าย หม่องโซ กล่าวว่า กองกำลังบีจีเอฟได้พยายามแก้ไขมาตลอด โดยได้การประสานจากทางการเมียนมา สถานทูต และทางเจ้าน้าที่รัฐบาลไทย และส่งเหยื่อที่ตกเป็นแก๊งคลอเซ็นเตอร์ไปกว่า 2,000 คน และมีการส่งตัวอย่างต่อเนื่องไปทางเมืองย่างกุ้ง และส่วนมากไปทางประเทศไทยเพราะสะดวกกว่าใกล้กว่า ปัญหานี้พยายามแก้ไขอยู่ และทางบีจีเอฟ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย และเชื่อมั่นจะสามารถแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่วมกันได้
พันโทหน่าย หม่องโซ กล่าวด้วยว่าไทยกับเมียนมาเหมือนบ้านพี่เมืองน้องกันมานาน และเคารพในรัฐบาลไทย ประชาชนชาวไทย ทางการไทยควรจะพิจารณาทบทวนกับการตัดกระแสไฟฟ้าและผ่อนคลายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะชาวเมียนมาได้รับความเดือดร้อนมาก ในส่วนของกองกำลังทหารไม่ต้องการอะไร เป็นห่วงประชาชนเท่านั้น
ล่าสุดพันโทหน่าย หม่องโซ บอกว่ามีชาวต่างชาติอีกนับ 100 คน ส่วนมากเป็นอินโดนีเซียที่ฝ่ายบีจีเอฟไปช่วยเหลือมาจากพื้นที่คอลเซ็นเตอร์ โดยจะส่งให้ทางการไทยในเร็วๆนี้ การช่วยเหลือต้องช่วยออกมาได้ครั้งละจำนวนน้อยและพอรวบรวมได้มาก จะส่งไปรวมตัวกันที่บริเวณด่านพรมแดนแม่สอดเมียวดี สะพาน 2
Advertisement
