เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.พ.68 ร.ต.ท.เดชอดุลย์ ณ ระนองรองสว.(สอบสวน) สน. บางเขน รับแจ้งเหตุจากพ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก. สน.คันนายาว ว่าฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายแก๊งลักรถจยย.
เหตุเกิดหน้าทางเข้าหมู่บ้านประยูรทอง 2 ซอยวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขต บางเขน กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.โกศลปิยะ สีมา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส. พ.ต.ต.ยุรนันท์ เพชรมณี สว.สส พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวชนิติเวช รพ.ภูมิพล ทีมสหวิชาชีพ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบนถนนใต้สะพานทางด่วนฉลองรัช พบศพนายศุภัช ศรีแย้ม อายุ 24 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือดสวมเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีดำ สวมทับเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนต์ขายาวสีดำ รองเท้าแตะและสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนา 9 มม. เข้าที่ศีรษะด้านหลัง 1 นัด ทะลุหมวกกันน็อก และที่ต้นขาซ้าย 1 นัด รวม 2 นัด ห่างกันประมาณ 50 เมตร พบรถจยยฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพใหม่เอี่ยม เป็นรถที่คนร้ายลักมาและมาจอดหลบซ่อนไว้พื้นที่ว่างเปล่าจอดรถใต้สะพานทางด่วน เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว ร่วมกันสืบสวนหาข่าว ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สน.คันนายาว และใกล้เคียง จะนำรถที่ลักมามาจอดพักบริเวณใต้สะพานทางด่วนศรีรัช หน้าหมู่บ้านประยูรทอง2 ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา 11.00 น.
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว 4 นาย มาซุ่มจับคนร้ายแก๊งลักรถ จยย.บริเวณใต้สะพานทางด่วนดังกล่าว มีคนร้าย 2 คน แต่งชุดดำคล้ายกันสวมหมวกกันน็อกเต็มใบทั้ง 2 คน ขี่รถจยย.ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขี่มาวนดูและขี่รถไปจอดใกล้รถ จยย.ยามาฮ่า ที่ขโมยมาจอดทิ้งไว้ก่อนทั้ง 2 คน ลงจากรถฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว บุกเข้าจับกุม โดย 1 ในฝ่ายสืบสวนเข้าล็อกคอคนซ้อนไว้ได้ แต่คนร้ายอีกคนชักปืนพกออโต้เมตริก สีเงิน น่าจะขนาด 9 มม. ออกมาจ่อขู่จะยิงตำรวจให้ปล่อยเพื่อน
ตำรวจที่ล็อกคอคนร้าย ยอมปล่อยมีการต่อรองกัน คนร้ายส่ายปืนจ่อไปมาตำรวจทั้ง 4 นาย เข้าที่กำบัง ขณะที่คนร้ายทั้ง 2 คนไปขี่ซ้อนรถ จยย.ขี่ขึ้นบนถนน คนขี่ใช้มือขวาบิดคันเร่ง ส่วนมือซ้ายยังจ่อมาที่ตำรวจเหมือนจะยิงเปิดทางหนี
หนึ่งในเจ้าหน้าที่จึงยิงใส่คนร้ายไป 2 นัด ถูกคนร้ายที่ซ้อนท้ายตกบนถนนเสียชีวิต ส่วนคนร้ายอีกคนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นใคร ทั้งนี้ชุดสืบสวนที่ร่วมวิสามัญมีกล้องติดหน้าอกบันทึกเหตุการณ์ ขณะคนร้ายจ่อปืนใส่ไว้ได้ทั้งหมด ประกอบกับกล้องวงจรปิดของชาวบ้านที่ส่องมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และการสอบสวนชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุเห็นคนร้ายทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมนำรถที่ขโมยมามาจอดทิ้งไว้ที่นี้ ก่อนนำไปขายต่อ
ส่วนประวัติคนร้ายที่ถูกวิสามัญ มีหมายจับคดีเปิดบัญชีม้าปี 59 ของ สภ.เมืองพิษณุโลก
"คนร้ายขโมยรถมาเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ที่ตึกทรงนิภา อาคาร 2 ซอยนวลจันทร์ 52 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.ในพื้นที่ สน.โคกคราม คนร้ายถอดทะเบียนป้ายออก (1กฬ 1951 นครสวรรค์ ) นำรถมาจอดรถที่ขโมยมาที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเวลา 05.00 น. วันนี้ เจ้าของเป็นหน่มชาวเมียนมา พี่ชายเป็นทำงานอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ซื้อและส่งมาส่งค่างวดมาได้ 5 เดือนแล้ว เจ้าของรถแจ้งหายไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ฝ่ายสืบสวนได้เบาะแส จึงให้ชาวบ้านช่วยสังเกตการณ์และแจ้งข่าว และมาซุ่มจับกุม และเกิดเหตุการณ์วิสามัญคนร้ายดังกล่าว ส่วนคนร้ายอีกคนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นใคร
ต่อมาแฟนสาวนายศุภัช (ผู้เสียชีวิต) อุ้มท้อง 9 เดือน พร้อมแม่ยาย เดินทางมาที่เกิดเกตุ โดยแม่ยายเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนมาทราบเรื่องจากคนรู้จัก จึงรีบโทรศัพท์ไปหาผู้เสียชีวิต แต่ตำรวจเป็นคนรับสาย พร้อมกับแจ้งเรื่อง ทันทีที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจและรีบมาที่เกิดเหตุ ก็เห็นร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ที่บริเวณใต้ทางพิเศษฉลองรัช
สำหรับผู้เสียชีวิตตนเห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียชีวิตไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน หนี้สิน หรือติดการพนันออนไลน์ ไม่มีพฤติกรรมลักขโมยแต่อย่างใด และคนในครอบครัวก็ไม่เคยเห็นผู้เสียชีวิตมีปืน เพราะผู้เสียชีวิตกับภรรยาเปิดร้านขายของใช้เบ็ดเตล็ดแถวบางเขน เป็นคนที่ขยันทำมาหากิน รักครอบครัว ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวต้องเสียเสาหลัก และในอีก 1-2 วันข้างหน้า แพทย์ได้นัดภรรยาของผู้เสียชีวิตไปทำการตรวจครรภ์เพื่อนัดวันคลอดลูกคนแรก
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ทำไมไม่จับกุมไปดำเนินคดี ทำไมถึงใช้ยุทธวิธีในการวิสามัญเช่นนี้
ขณะเดียวกัน นายแสง ชายสัญชาติเมียนมาอายุ 20 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกกลุ่มผู้เสียชีวิตขโมยไป เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ
โดยนายแสง เล่าว่า รถคันดังกล่าวเพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 โดยผ่อนเดือนละประมาณ 2,000 บาท เป็นรถของพี่สาวที่จอดไว้ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยนวลจันทร์ 52
จนกระทั่งเช้าวันเกิดเหตุ ตนและพี่สาวตื่นขึ้นมาพบว่ารถหายไป จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขโมยรถไป ก่อนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สน.โคกคราม เวลาประมาณ 10.00 น.
นายแสง ยอมรับว่า ในตอนแรกกังวลว่าอาจไม่ได้รถคืน แต่หลังจากนั้นได้รับโทรศัพท์ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าพบรถแล้ว ทำให้รู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม ตนไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะลุกลามถึงขั้นมีการยิงปะทะกับตำรวจจนทำให้กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายแสงระบุว่า ตนอโหสิกรรมให้กับกลุ่มผู้เสียชีวิต และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามรถกลับคืนมาให้ตนและพี่สาวได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 18.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. จะเดินทางติดตามความคืบหน้าที่สน.บางเขน
Advertisement