ตำรวจเร่งสางคดี ด.ญ.วัย 10 ขวบถูก 3 ทรชนชำเรา ส่อพิรุธอื้อ!
ตำรวจเร่งสางคดีด.ญ.วัย 10 ขวบถูก 3 ทรชนชำเรา ส่อพิรุธอื้อ! ตรวจกล้องวงจรปิดไม่เจอชาย 3 คน งงพ่อเลี้ยงงรู้จุดเกิดเหตุได้อย่างไร ขณะที่อาการเด็กยังโคม่า
วันที่ 14 ก.พ. 68 จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมติ) แม่วัย 35 ปีว่า ลูกสาววัย 10 ขวบ เรียนชั้น ป.4 ถูกชายหาปลา 3 คนเรียกออกไปข้างโรงเรียนว่าจะให้ขนมแล้วย่ำยีกระทำชำเรา ใช้ไม้แทงที่บริเวณทวารหนักอย่างทารุณ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 16.00 น. ริมคลองข้างรร.หนองประดู่ ต.ห้างสูง อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ตอนนี้น้องอาการสาหัสแพทย์ รพ.ชลบุรี ต้องผ่าตัดแผลที่อวัยวะเพศด่วน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้นายอนุพงษ์ พ่อเลี้ยงของน้องป.4 เปิดเผยว่า น้องยังอาการโคม่า อยู่ในห้องพักฟื้นไอซียู เนื่องจากน้องลำไส้ทะลุหากัน ซึ่งเป็นลำไส้ใหญ่จากรูทวาร พบมีแผลติดเชื้อ หมอให้ทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และยังให้น้องพักฟื้นตัวในห้องไอซียู เพื่อดูอาการเป็นระยะ แต่อาการน้องยังไม่ดีขึ้น จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
จนต่อมา ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษมาสุข ผกก.สภ.หนองใหญ่ และเจ้าหน้าที่พม. จ.ชลบุรี กระทรวงยุติธรรมชลบุรีได้ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านหนองประดู่ ต.ห้างสูง อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ก่อนที่จะพาแม่น้อง และครอบครัวเดินทางมาที่ สภ.หนองใหญ่ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฏหมายให้ได้เร็วๆ
ขณะที่แม่เด็ก เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้ความเป็นไปได้ที่ลูกจะถูกกระทำที่โรงเรียน หรืออาจจะแถวบ้านพัก แต่ถึงอย่างไรอยากจะถามกับคนร้ายว่ามาทำลูกฉันทำไม ลูกฉันไปทำอะไรให้ ถ้าถูกจับตัวได้ อยากให้ถูกประหารชีวิตไปเลย ส่วนอาการน้องตอนนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู อาการพ้นขีดอันตราย หลังจากได้รับการผ่าตัดทางทวารหนัก และลำไส้ที่ฉีกขาด
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มหลังโรงเรียน มีบ่อขุดเลี้ยงปลา โดย พ.ต.ท.โทปิยะวัฒน์ วงศ์ทรายทอง รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม ได้ชี้จุดบริเวณที่ปรากฏในภาพที่พ่อเลี้ยงได้ถ่ายไว้ และอ้างว่าเป็นจุดที่น้องถูกกระทำ ซึ่งก็น่าแปลกว่าพ่อเลี้ยงรู้ได้อย่างไรว่าเป็นจุดนี้ แถมหลังเกิดเหตุไม่ได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางโรงเรียน ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะต้องแจ้ง เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ ก็เป็นที่น่าสงสัย
หลังจากดูที่เกิดเหตุก็ได้ไปตรวจสอบบริเวณบ้านพักของหนูน้อยได้ลงพื้นที่บริเวณบ้านพักของน้องใบตองได้พูดคุยกับเพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อวานช่วงเวลา 8 โมง 9 โมงยังเห็นน้องใบตองยังวิ่งเล่นกับพี่ชายชื่อกล้วย และเด็กชายญาติของพ่อเลี้ยงบริเวณหน้าบ้าน แล้ววิ่งไปเล่นบริเวณป่ายูคาลิปตัสที่มีคลองน้ำ ซึ่งขัดกับคำบอกเล่าของแม่และพ่อเลี้ยงว่าน้องใบตองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระทำของชาย 3 คนที่บริเวณโรงเรียน เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งบาดเจ็บขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่น้องจะสามารถวิ่งเล่นเหมือนปกติ
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังคำบอกเล่าของเพื่อนบ้าน ก็ได้ลงตรวจพื้นที่บริเวณป่ายูคาลิปตัสที่เพื่อนบ้านบอกเห็นเด็กทั้ง 3 คนไปวิ่งเล่นบริเวณบ่อน้ำจากการขุด และพวกต้นกระถินที่มีการตัดขึ้นเป็นตอๆ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การครั้งแรกที่น้องบอกกับพ่อและแม่ว่าวิ่งหกล้มแล้วถูกไม้แทง แต่ก็ไม่มีร่องรอยคราบเลือดที่น้องวิ่งเล่นอยู่แต่อย่างไร
ส่วนในด้านคดีทาง ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่งได้ไปติดตามคดี และได้ออกมาเปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ในคดีนี้มีข้อสงสัยหรือพิรุธหลายอย่าง ทั้งไทม์ไลน์ที่พ่อเลี้ยงและแม่ได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ยินจากปากน้อง ได้ยินแต่คำบอกจากพ่อและแม่ และเมื่อยิ่งดูกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนก็ไม่เห็นเหตุการณ์ชาย 3 คนเข้าออก หรือผ่านทางหน้าโรงเรียน ซึ่งคดีนี้คงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคลี่คลายทำความจริงให้เปิดเผยออกมา
ด้านแพทย์หญิงน้ำเพชร เฉียบแหลม ผอ.โรงพยาบาลหนองใหญ่ เปิดเผยว่า ทางพ่อและแม่ได้พาน้องเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล วันที่ 12 ก.พ. เวลา 13.40 น. ทางทีมแพทย์ได้เห็นบาดแผลของน้องทางทวารหนัก ทางโรงพยาบาลจึงได้รีเฟอร์ต่อไปที่โรงพยาบาลชลบุรี เพื่อทำการผ่าตัด เพราะบริเวณทวารหนักของน้องมีแผลฉีกขาดทะลุไปถึงลำไส้ เกิดการติดเชื้อจากอุจจาระ ส่วนบริเวณอวัยวะเพศในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด
จากการสอบถาม พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำลังสอบสวนอยู่ว่าคดีจะไปทางทิศทางใด ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบไทม์ไลน์ และพยานหลักฐานต่างๆ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สงสัยอะไรหลายๆ อย่างต้องใช้เวลานิดนึง ขอใช้เวลาวันหรือสองวันก็น่าจะรู้เรื่อง ตอนนี้ได้นำเด็กนักเรียนและคุณครูมาสอบก็ให้การเป็นประโยชน์กับทางพนักงานสอบสวนมากพอสมควร
Advertisement
