จากกรณีพบ 3 ศพ พ่อแม่ลูก ที่หายตัวปริศนาหลังวันเด็ก (12ม.ค.68)ถูกยัดใส่รถกระบะคลุมด้วยผ้าคลุมรถจอดทิ้งไว้บ้านร้างริมถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) พื้นที่ ม.10 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยมีผู้พบเห็นเมื่อวานนี้ (13 ก.พ.68) ที่ผ่านมา ซึ่งญาติให้ข้อมูลว่า ผู้ตายมีอาชีพ ทั้งค้าขาย-ให้เช่าเครื่องเสียง-ปล่อยเงินกู้-เล่นแชร์วงใหญ่ ส่วนผลการชันสูตรทั้งสามศพ เบื้องต้นพบบาดแผลจากรอยกระสุนที่ศีรษะทั้ง 3 ราย
ล่าสุดทีมข่าวได้คุยกับ “นางมะเฟือง“ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เป็นพยานในคดี เจ้าตัวเล่าให้ทีมข่าวว่าฟังว่าวันที่ 12 มกราคม 2568 ประมาณ 19.40 น. ตนขี่รถ จยย. เข้าไปยังทุ่งนาแถว ต.คลองขลุง ก็เห็นว่ามีรถกระบะสีขาวสี่ประตู คล้ายกับของผู้ตาย แต่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามตนมาติดๆ
ตนก็จอดตรงริมทุ่งนาเพื่อเอาน้ำมันใส่เครื่องปั๊มน้ำ ส่วนรถกระบะคันนั้นก็ขับผ่านตนไป ซึ่งคนที่นั่งเบาะข้างคนขับลดกระจกลงเพื่อสูบบุหรี่ จึงเห็นว่าเป็นผู้ชายผอมๆ สวมเสื้อเชิ้ต สวมหมวกแก๊บสีดำบังใบหน้า ส่วนคนขับเป็นผู้ชาย สวมหมวกแก๊ปสีดำบังใบหน้า ด้วยความที่คนกลัว ก็เลยเปิดผ้าโพกหน้าออก เพื่อให้เขาเห็นว่าเป็นผู้หญิง ทำให้กระบะคันนั้นขับเลยไป 100 เมตร แล้วจอดริมถนน ก่อนจะลงมานั่งสูบบุหรี่ที่กระบะทั้ง 2 คน
พอสูบเสร็จประมาณ 5 นาทีก็ขับมุ่งหน้าไปอีก 100 เมตร จนได้ยินเสียง “ปั้ง ปั้ง ปั้ง” ต่อเนื่องกันโดยไม่ได้จอดรถ ซึ่งเสียงคล้ายระเบิดปิงปอง แต่ตนไม่ได้เดินไปดู เพราะกลัว ก็เลยรีบขี่รถ จยย. กลับออกมาทางถนนใหญ่
ก็เห็นว่ามีผู้ชาย 2 คนขี่รถ จยย. เวฟมาคนละคัน มุ่งหน้าตามหลังรถกระบะคันนั้นไป โดยเส้นทางดังกล่าวสามารถไปยังจุดที่ “นายทอง“ (นามสมมุติ) เจอคราบเลือด
ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีข่าวว่า 3 คนพ่อแม่ลูกหายไป ตนก็คิดว่าคงเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน ก็เลยยังไม่ได้แจ้งให้ใครทราบ แต่พ่อตนเห็นว่า “นายสุพัฒน์” ญาติคนตายโพสต์ตามหา ก็เลยโทรไปเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หลังจากนั้นวันที่ 20 มกราคม 2568 ตำรวจเชิญตนไปสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมกับพาตนมาชี้จุด และเก็บชิ้นส่วนของระเบิดปิงปอง 3 จุดไปเป็นหลักฐานและวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ก็เชิญตนไปสอบปากคำอีกรอบ แต่รายละเอียดก็เหมือนเดิม แค่ให้ยืนยันข้อมูล
ที่ผ่านมาตนก็รู้จักผู้ตายทั้ง 3 คน เพราะเคยเป็นลูกค้าร้านผ้า เคยพูดคุยกัน เห็นว่าเขาก็ปกติดี ไม่รู้ว่าจะมีพฤติกรรมแปลกๆ แล้วสิ่งที่ตนมองว่ามันผิดปกติในเหตุการณ์คืนนั้น คือปกติแล้วถนนเส้นนี้จะไม่ค่อยมีใครสัญจร เพราะมันเปลี่ยวไม่มีบ้านคน ไม่มีไฟส่องสว่าง และหากจะมองว่าเป็นการจุดระเบิดปิงปองเพื่อเป็นการไล่นกหนู ส่วนไหนจะจุดกลางวัน ในช่วงที่ข้าวต้นกล้า แต่ตอนนั้นข้าวมันโตแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่จุดกัน และที่สำคัญคือทางรถกระบะคันนั้นเป็นของผู้ตายจริง เขาจะไม่ใช้เส้นนี้เป็นปกติ
Advertisement