Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดใจครูลิเก "ไอ้โน๊ต" นิสัยเอาแต่ใจ แฉเคยปลอมเป็น ตร.ไถเงินชาวบ้าน

เปิดใจครูลิเก "ไอ้โน๊ต" นิสัยเอาแต่ใจ แฉเคยปลอมเป็น ตร.ไถเงินชาวบ้าน

16 ก.พ. 68
11:03 น.
|
432
แชร์

เปิดใจครูลิเก "ไอ้โน๊ต"เผยนิสัยเอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคยยอมรับความผิดตัวเอง แฉเคยปลอมเป็น ตำรวจไถเงินชาวบ้าน

จากกรณี นายศิวกร หรือโน๊ต ก่อเหตุยิงพ่อแม่ลูก 3 ศพ คือ นายวงศกร อายุ 37 ปี น.ส.นัทกานต์ อายุ 35 ปีภรรยา และ น้องซันเดย์ อายุ 7 ขวบลูกชาย หลังทั้ง 3 คนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนมีชาวบ้านไปพบรถกระบะจอดอยู่ในบ้านร้าง โดยทั้ง 3 ศพถูกยิงที่หัว ตำรวจสอบสวนจนรู้ตัวคนลงมือฆ่า ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ทีมข่าวตรวจสอบทราบว่าตัวของ “นายศิวกร”ผู้ต้องหาในคดีนี้ ก่อนหน้านี้เคยเล่นลิเก อยู่ในพื้นที่อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร วันนี้ทีมข่าวจึงเดินทางมายังคณะลิเกคลองขลุงบำรุงศิลป์ และมีโอกาสได้คุยกับ นายสะเทื้อน นาคเมือง หรือ ครูเผ เจ้าของคณะคลองขลุงบำรุงศิลป์ และเป็นคนปลูกปั้น “นายศิวกร” ในด้านลิเก

เจ้าตัวบอกว่าช่วงที่ ”นายศิวกร” เรียนอยู่ชั้น ป. 3 ตนมีโอกาสได้ไปสอนลิเกให้ที่โรงเรียนของเขาและเห็นว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่แยกทางกัน ก็เลยชวนมาเล่นลิเกเพื่อสร้างรายได้ โดย “นายศิวกร” ก็เลยตัดสินใจมาเล่นลิเกกับตน โดยมีพี่ชายมาเล่นด้วย แต่นิสัยของทั้งคู่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะพี่ชายของเขาเป็นคนจิตใจดี มีเหตุผล ในขณะที่ “นายศิวกร” เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง ขี้งอนและขี้น้อยใจ มักจะยึดตัวเองเป็นที่หนึ่ง ไม่สนความรู้สึกคนอื่น

ทำให้มีอยู่ปีนึงที่ทางคณะมีการจัดงานไหว้ครู ตัวของ “นายศิวกร” ไปชกต่อยกับรุ่นพี่ในคณะ ขณะที่ตนกำลังทำพิธีไหว้ครู เพราะ “นายศิวกร“ ไปหาเรื่องเขาก่อน แต่ในปัจจุบันคู่กรณีของเขาในตอนนั้นไปได้ดิบได้ดีแล้ว ต่างจากตัวของเขาที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะเขาเลือกที่จะไม่รับโอกาสจากตน ไม่ยอมปรับตัว ไม่อดทน

ซึ่งตัวของ “นายศิวกร” เล่นลิเกกับตนมาจนอายุประมาณ 20 กว่าปี ส่วนใหญ่จะเล่นเป็นดาวตลก เพราะเล่นแล้วเข้าถึงบทบาทได้มากกว่า แต่บางครั้งถ้านักแสดงขาด ก็สามารถเล่นเป็นตัวร้ายได้ เป็นพระเอกได้ แล้วแต่โอกาส แต่เขามีฉายาในด้านดาวตลกคือ “ดาวตลกตาตี๋” ซึ่งข้อดีของเขาคือเป็นคนมีไหวพริบปฏิภาณและความจำดี เสียงดี ทำให้นอกจากเล่นลิเกแล้วก็ยังรับร้องเพลงตามงานด้วย ทำให้ช่วงที่เขาเล่นลิเกกับตน สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เยอะมาก

จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งเมื่อ 8 ปีก่อน ตัวของ “นายศิวกร” เล่นผิดคิว ตนก็เลยมีการตำหนิไปทำให้ตัวของเขาไม่พอใจและหยุดการแสดงกลางคัน แล้วก็ออกจากงานไป ไม่กลับมาอีกเลย เนื่องจากด้วยนิสัยของเขาคือไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง เชื่อมั่นใจตัวเองสูงเกิน

หลังจากนั้นตนก็ไปสอนลิเกให้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จนมีการตั้งคณะลิเกขึ้นภายในมหาวิทยาลัย และทราบว่าตัวของ “นายศิวกร” ไปสมัครเล่นลิเกของคณะนั้นด้วย ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะถือว่าเป็นลูกศิษย์คนหนึ่ง ทำให้ความสัมพันธ์ของตนกับตัว “นายศิวกร” กลับมาพูดคุยกันอีกรอบ แต่เขาก็ไม่ค่อยมาที่คณะ มีเพียงแค่กลางปีที่แล้วที่ตนมีการจัดงานที่คณะ แล้วเขาก็มาทำบุญ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย

เจ้าตัวยอมรับว่าหลังจากทราบข่าวว่าตัวของ “นายศิวกร” เป็นฆาตกรนั้น ยอมรับว่าเสียดาย เสียใจที่เขาไม่เอาคำสอนของตนและพ่อแก่ไปใช้ เพราะตนเคยสอนเขาเสมอว่าถ้าเรามาจากเด็กด้อยก็ต้องพัฒนาให้เป็นเด็กที่ได้รับผลประโยชน์ และเมื่อได้รับผลประโยชน์แล้ว ก็ต้องให้ผลประโยชน์กับคนอื่นด้วย แต่นี่เค้ขากลับไม่ให้ผลประโยชน์กับใคร และกลายเป็นฆาตกร

และสิ่งที่เขาทำมันโหดเกิน ไม่ว่าจะขัดคอกับผู้ตายในด้านธุรกิจหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ก็ควรที่จะคุยกันก่อน และอีกอย่างคือตนสงสารแม่ของ “นายศิวกร” มาก เพราะแม่เป็นคนขยันทำมาหากิน หลังจากนี้ไม่รู้ว่าแม่เขาจะอยู่ยังไง แล้วทราบว่าตัวของ “นายศิวกร” ก็เพิ่งจะแต่งงานได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ แต่ยังไม่มีลูก

ดังนั้นสิ่งที่ตนอยากจะฝากถึงอดีตลูกศิษย์คือ “ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ ทุกอย่างมันขึ้นกับกรรม ขึ้นอยู่กับการกระทำ ถ้าทำกรรมดีได้ดี ทำดรรมชั่วได้ชั่ว หลังจากนี้ก็ทำตัวใหม่ อย่ามองคนอื่นว่าด้อยกว่าเราเสมอไป”

Advertisement

แชร์
เปิดใจครูลิเก "ไอ้โน๊ต" นิสัยเอาแต่ใจ แฉเคยปลอมเป็น ตร.ไถเงินชาวบ้าน