วันนี้(16 ก.พ.68) หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว “โน๊ต-เข้” สองผู้ต้องหาร่วมฆ่าพ่อแม่ลูกหมกกระบะจอดบ้านร้างคลองขลุง กำแพงเพชร มาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมทนายและญาติ
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายออกมาจำลองเหตุการณ์ ในการก่อเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมสอบเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุจนมาถึงจุดที่นำศพมาทิ้งในบ้านร้าง
โดยได้นำตัวนายโน๊ต ไปจำลองเหตุการณ์หลังจากก่อเหตุยิง 3 พ่อแม่ลูกเสร็จแล้วเมื่อมาถึงบ้านร้างจอดรถทิ้งศพไว้หลังจากนั้น 5 วัน จึงได้ไปซื้อผ้าคลุมรถมาคลุมเพื่ออำพราง
ซึ่งช่วงที่กลับขึ้นมายังสภ.คลองขลุงนั้น นายโน๊ต ได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับผู้เสียชีวิตยืนยันมูลเหตุจากเงินจำนวน 150,000 บาท ไม่ได้มีเรื่องอื่น ส่วนกรณียิงเด็กตนก็ไม่ได้ตั้งใจ หลังจากเกิดเหตุตัวเองก็รู้สึกกับการที่ทำลงไปเหมือนกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานายโน๊ต จำลองเหตุการณช่วงนั่งรถมากับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยนายใหม่ เป็นคนขับ ในรถมีลูกเมียนั่งมาด้วยด้านหน้า ส่วนนายโน๊ตนั่งมาเบาะหลัง เมื่อรถมาถึงจุดเกิดเหตุเริ่มมีปากเสียงกันเรื่องเงิน นายโน๊ต จึงเปิดลิ้นชักตรงกลางระหว่างที่นั่งคนขับพร้อมหยิบปืนออกมา
จากนั้นจึงลงจากรถมาพูดคุยตกลงเรื่องเงินบริเวณหน้ารถ เมื่อตกลงกันไม่ได้ โน๊ตจึงยกปืนพร้อมขึ้นลำทำท่าจ่อยิงนายใหม่ แต่เกิดการแย่งปืนกันขึ้นทำให้ปืนลั่นไปถูกศีรษะนายใหม่ แต่ยังไม่เสียชีวิต
นายโน๊ต จึงมาเรียกภรรยานายใหม่ให้ลงมาช่วยยกตัวนายใหม่ แต่เมื่อลากมาถึงประตูหลังยกขึ้นไม่ไหวจึงโทรศัพท์เรียก “นายเข้” มาช่วยยก ก่อนจะไล่ให้นายเข้กลับบ้านไปและแยกย้ายกัน
หลังจากนั้นนายโน๊ต จึงเอาปืนจี้บังคับให้เมียและลูกนายใหม่ขึ้นมาบนรถ ก่อนมีปากเสียงและแย่งปืนกันปรากฏว่าปืนลั่นไปถูกศีรษะลูกชายที่นั่งบนตักแม่เสียชีวิตคาที่
เป็นเหตุให้ น.ส.แจง ผู้เป็นแม่โวยวายด้วยความโมโห นายโน๊ต จึงตัดสินใจยิง น.ส.แจง เสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย ก่อนจะขับรถนำศพมาทิ้งบริเวณบ้านร้าง ซึ่งหลังจากนั้น 5 วันได้ไปซื้อผ้าคลุมมาคลุมรถไว้เพื่ออำพราง จนมีผู้มาพบเห็นและความจริงถูกเปิดเผยดังกล่าว
ด้านนายเข้ คู่หูผู้ต้องหายืนหน้าซีดเข่าอ่อนระหว่างรอเจ้าหน้าที่คุมนายโน๊ตจำลองเหตุการณ์ อยู่บนโรงพัก โดยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ถ้าถามว่าตนรู้สึกผิดมั้ย ก็รู้สึกผิด ไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นผู้ต้องหาร่วมกันแบบนี้ ตอนนายโน๊ต โทรชวนปฏิเสธแล้วว่ าพ่อกับแม่ไม่ให้ไปเมียไม่ให้ไป แต่ก็ตามให้ตนออกไปช่วยพี่แป๊บเดียวจึงออกไป
“พอเจอเหตุการณ์ตรงนั้นมันกลัวจนหนีไปไหนไม่ได้แล้ว มันต้องเอาตัวรอดแล้ว เมื่อช่วยโน๊ตเสร็จแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปคนละทาง ถามว่อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตมั้ย ใจจริงก็อยากขอโทษตั้งแต่แรกแล้ว แต่มันกลัว”
ส่วนมีคนถามว่าทำไมเกิดเหตุขึ้นแล้วถึงไม่แจ้งความ เพราะตนรู้สึกกลัว มันกลัวไปทุกอย่าง ซึ่งหลังเกิดเหตุโน๊ตพยายามติดต่อมา แต่ตนก็พยายามที่จะไม่คุยด้วย
ทั้งนี้ช่วงที่ตนไปนั้นยังพบว่าลูกเมียของนายใหม่ยังอยู่ภายในรถ ซึ่งหลังจากแยกย้ายกันไปตนก็ไม่รู้ว่าไอ้โน๊ตไปฆ่าคนตายอีก 2 ศพ
ขณะให้สัมภาษณ์อยู่นั้นจู่ๆนายเข้ ก็รู้สึกเป็นลมเข่าอ่อนทรุดตัวลงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องนำเก้าอี้มาให้นั่งพักก่อนลงไปจำลองเหตุการณ์ร่วมกับโน๊ต
Advertisement