สาวงง จู่ๆ ตร.เชิญสอบ หลังพบเบอร์ปริศนาที่ส่ง SMS
สาว บอกงง จู่ๆ ตร.เชิญสอบ พบเบอร์ปริศนาที่ส่ง SMS โทรหาวันที่ 8 มค. 2 ครั้ง ยันไม่รู้จักคนตายและผู้ต้องสงสัย ยินดีให้ความร่วมมือตร.
จากกรณีพบ 3 ศพ พ่อแม่ลูก ที่หายตัวปริศนาหลังวันเด็ก (12ม.ค.68)ถูกยัดใส่รถกระบะคลุมด้วยผ้าคลุมรถจอดทิ้งไว้บ้านร้างริมถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) พื้นที่ ม.10 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยมีผู้พบเห็นเมื่อวานนี้ (13 ก.พ.68) ที่ผ่านมา ซึ่งญาติให้ข้อมูลว่า ผู้ตายมีอาชีพ ทั้งค้าขาย-ให้เช่าเครื่องเสียง-ปล่อยเงินกู้-เล่นแชร์วงใหญ่ ส่วนผลการชันสูตรทั้งสามศพ เบื้องต้นพบบาดแผลจากรอยกระสุนที่ศีรษะทั้ง 3 ราย
คอนเทนต์แนะนำ
ต่อมาญาติได้รับเอสเอ็มเอสจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นแม่ที่โดนยิง ระบุว่า “พี่แจงนะ ไปแจ้งความทำไมเดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่โต พี่มาทำธุระกับพี่ใหม่ มันมารอเอาเงินอยู่ตีนเขา พรุ่งนี้ตอนค่ำๆ ก็กลับแล้ว ดูบ้านด้วยนะตื่นเปิดร้านด้วยบอกพ่อด้วยไม่ต้องห่วงทางนี้ ขาไม่ให้ใช้โทรศัพท์ เลยต้องพิมพ์ฝากข้อความนี้ให้คนอื่นออกไปส่ง ไม่ต้องให้ใครรู้นะว่าพี่มาทำอะไรกัน ไปถอนแจ้งความเลยเดี๋ยวพี่ใหม่จะโดนตรวจสอบการเงินเอา ลาครูให้ไอ้อ้วนด้วย ใครมาฝากเงินก็จดไว้ให้หน่อยเดี๋ยวพี่กลับไปเคลียร์เอง อ่านแล้วก็ลบด้วย ไม่ต้องติดต่อกลับมานะ พรุ่งนี้ได้โทรศัพท์คืนเดี๋ยวโทรไปเอง”
ทั้งนี้จากข้อมูลว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งกดหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ยืนยันการทำรายการของเบอร์ดังกล่าว ประมาณ 5-6 ครั้ง และมีแม่ของหญิงสาวรายดังกล่าว ได้โทรเข้าเบอร์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่า หญิงสาวรายดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันกับคนที่กดเลข 13 หลัก เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องสงสัย 4 รายมาสอบปากคำ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวสอบถาม “นางสาวปาลิตา” หนึ่งบุคคลที่เบอร์ปริศนาโทรหา ซึ่งเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ตำรวจไปหาที่บ้านใน อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร และสอบปากคำเบื้องต้น จากนั้นเมื่อวานนี้ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญมาสอบปากคำ วันนี้เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวผ่านทางโทรศัพท์ เพราะตำรวจบอกว่าเบอร์ปริศนานี้โทรหาตนวันที่ 8 มกราคม 2568 จำนวน 2 ครั้ง แต่ตนก็พยายามนึกว่าเป็นเบอร์ใคร ก็จำไม่ได้ เพราะมันนานมากแล้ว
ส่วนถ้าถามว่าในช่วงนั้นมีเบอร์แปลกโทรหาบ้างไหม? เจ้าตัวบอกว่าเท่าที่จำได้ก็น่าจะเป็นเครือข่ายโทรศัพท์(ทรู)โทรมาขายซิมพร้อมฟรีเน็ต ฟรีกล้องวงจรปิด แต่ตนก็ปฎิเสธไป และจำไม่ได้ว่าเป็นเบอร์เดียวกับที่ส่ง SMS ปริศนามาหาญาติคนตายหรือเปล่า นอกจากนั้นก็จะเป็นเบอร์ที่ตนคุยกับคนตัดอ้อยและคุยงานอื่นๆเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เลยปล่อยตนกลับบ้าน ไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร
ส่วนกับคนตายนั้น ตนก็ไม่รู้จักมาก่อน เพราะบ้านตนอยู่ อ.ไทรงาม ไม่ได้อยู่ อ.คลองขลุง ที่เป็นบ้านคนตายหรือท้องที่เกิดเหตุ และที่ผ่านมาตนก็ทำงานตัดอ้อย มารู้เรื่องจากข่าวอีกทีคือข่าวพบศพ 3 ศพแล้ว
และกับ “นายศิวกร” จนก็ไม่รู้จัก ไม่คุ้นชื่อ รวมถึง “นายศิริชัย“ น้องชายคนตายฝ่ายหญิง ตนก็ไม่รู้จัก ตนยังงงอยู่เลยว่าทำไมถึงมาเชิญตนไปสอบปากคำ แต่ก็ยินดีให้ความร่วมมือไปแล้วทุกอย่าง
Advertisement
