จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายศิวกร หรือ โน๊ต และ นายนิรุธ หรือ เขร้ ในคดีฆาตกรรมพ่อแม่ลูก 3 ศพ คือ นายวงศกร อายุ 37 ปี น.ส.นันทกานต์ อายุ 35 ปีภรรยา และ น้องซันเดย์ อายุ 7 ขวบลูกชาย หลังทั้ง 3 คนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา งก่อนมีชาวบ้านไปพบรถกระบะจอดอยู่ในบ้านร้าง โดยทั้ง 3 คนถูกยิงที่หัวเสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 68 ที่สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ทำให้ตามตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า สาเหตุมาจากจะยืมเงินคนตายแล้วไม่ให้ ส่งผลให้ธุรกิจโดรนการเกษตรเสียหาย เนื่องจากนายโน๊ตนำโดรนการเกษตรอันเก่าไปเปลี่ยนเป็นของใหม่ แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 1.5 แสน ซึ่งไม่ได้เงินก้อนนี้ ทำให้จะมายืมคนตาย แต่เมื่อไม่ได้ ทำให้โกรธแค้นและโมโหที่ไม่ได้เงินที่จะยืม ส่งผลให้นายโน๊ตโดนยึดเงินมัดจำที่จะซื้อโดรนการเกษตรไป ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเล่นแชร์แต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงว่า หลังก่อเหตุนายโน๊ตยังขโมยทองคนตายไปขาย ซึ่งตำรวจได้รับความร่วมมือจากร้านทองเป็นอย่างดี ทราบด้วยว่านายโน๊ตนำเงินไปใช้หนี้ จากนั้นยังพยายามตบตา ด้วยการส่งข้อความไปหาญาติคนตาย รวมทั้งซื้อผ้าคลุมรถที่ห้างดัง แล้วมาคลุมรถหลังก่อเหตุไปแล้ว โดยคนร้ายตั้งใจจะสังหารแม่และลูกด้วยอยู่แล้ว เพราะกลัวจำใบหน้าได้ ส่วนสาเหตุที่นำ 3 ศพมาทิ้งไว้จุดนี้ เพราะเห็นเป็นบ้านร้าง
“คำให้การคนร้าย ตำรวจรับฟัง แต่ต้องมาตรวจสอบอีกครั้งว่าจริงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ตอนนี้แจ้งข้อหานายโน๊ตและนายเขร้ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันอำพรางศพ และลักทรัพย์”
เมื่อถามถึงกรณีนายโน๊ตมาถามข้อมูลจากนักข่าวในการสืบสวน พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า นายโน๊ตมีทักษะและความรู้เรื่องนี้ จึงเข้ามาดูการสืบสวน เพื่อหาช่องทางทำลายหลักฐาน โดยนายโน๊ตเคยมีคดีลักทรัพย์ และเกี่ยวกับปืน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอาวุธปืน คนร้ายอ้างว่านำไปทิ้ง แต่หากไม่เจอปืน เจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานด้านอื่นครบแล้ว
Advertisement