แม่น้อง 10 ขวบเหยื่อถูกชำเรา แจ้งลูกสาวอาการทรุด

แม่น้อง 10 ขวบเหยื่อถูกชำเรา แจ้งลูกสาวอาการทรุด ด้านพ่อเลี้ยงย้ำเด็กพูดเองมีชาย 3 คนทำร้าย บอกลูกสาวเขียนระบายสมุดบันทึกปกติแค่น้อยใจโดนดุ 

จากกรณี น.ส.เอ ซึ่งเป็นแม่ร้องเรียนว่า ด.ญ.ซี ลูกสาววัย 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ถูกชาย 3 คน ล่อลวงให้ออกไปนอกโรงเรียน ก่อนช่วยกันจับตัวล็อกแล้วใช้ไม้ทิ่มเข้าไปที่ทวารหนัก จนลำไส้ฉีกขาด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

คอนเทนต์แนะนำ

เตือนภัย "วาเลนไทน์" ระวังตกเป็นทาสความรัก 6 มุกมิจฉาชีพลวงหลอก

เจ้าอาวาส เผย ไอ้โน๊ต ฆาตกร3ศพ เคยขอยืมเงินแต่ไม่มีให้

แม่น้อง 10 ขวบเหยื่อถูกชำเรา แจ้งลูกสาวอาการทรุด

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 15 ก.พ.68 ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้เดินทางมาที่บ้านของ น.ส.เอ และนายบี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.ซี เปิดเผยว่า ล่าสุดวันนี้ช่วงเที่ยงคุณหมอที่โรงพยาบาลชลบุรีได้โทรศัพท์มาแจ้งกับตนว่า อาการของ ด.ญ.ซี ทรุดลง จากการติดเชื้อ โดยเมื่อวานนี้ตนเองได้เดินทางไปกับนายบี หลังจากให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพักเสร็จ พอไปถึงก็พบว่า ลูกสาวก็พักอยู่ในห้องปลอดเชื้อ โดยหมอไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม ตอนนั้นลูกสาวก็ยังคงมีสติ และมองมาหาตน ดูจากท่าทางลูกสาวน่าจะเจ็บแผล และอยากให้ตนเองเข้าไปเยี่ยม พอเห็นแบบนั้นตนเองก็รู้สึกสงสารลูกสาว 

โดยในวันนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินไปดูกับครอบครัวพร้อมกับ ด.ญ.โดนัท อายุ10 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนชั้นเดียวกันกับลูกสาวของตน ตอนที่เดินไปก็แค่อยากให้ ด.ญ.โดนัทชี้ว่า เห็นชายผู้ต้องสงสัย 3 คนอยู่ตรงไหน ซึ่งไม่ได้ระบุว่าจุดดังกล่าว เป็นจุดที่ลูกสาวของตนเองโดนกระทำ 

น.ส.เอ ยังคงยืนยันว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากลูกสาวเลิกเรียนทุกอย่างก็เป็นปกติ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ตนเองก็ออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. หลังจากนั้นก็กลับมาอีกทีประมาณ 12.00 น. ประเด็นเงิน 1,000 บาท ที่ลูกชาย และหลานได้ออกไปซื้อขนมที่ร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 60 เมตร ตนเองเป็นคนเอาเงิน 1,000 บาทให้กับลูกชายและหลานชายไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอง โดยหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ตนเองจึงได้เห็นว่าลูกสาวเปื้อนเลือด จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล 

กรณีมีภาพกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล ลักษณะที่ตนเองเดิน และไม่รอลูกสาว น.ส.เอ ชี้แจงว่า ตนเองได้มีการพูดคุยกับลูกสาวก่อนหน้านี้แล้วว่า “เดินไหวไหม” โดยตอนนั้นลูกสาวก็มีอาการกุมท้อง และเดินหลังค่อมๆ ซึ่งลูกสาวบอกว่า “เดินไหว” ตนเองจึงบอกว่า “งั้นแม่จะเดินไปหาหมอก่อนนะ” ซึ่งภาพก็อาจจะปรากฏว่าตนเองไม่รักลูก 

ประเด็นที่ ด.ญ.ซี ได้เขียนข้อความลงสมุดบันทึก น.ส. บอกว่า ปกติแล้วลูกสาวก็จะเป็นคนที่ชอบวาดภาพ และเขียนอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่จะบอกว่าลูกสาวเขียนระบายอะไรอย่างอื่น เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ แต่จากที่เลี้ยงลูกมาไม่ใช่เด็กที่เก็บกด เป็นคนที่ร่าเริง ส่วนเรื่องที่ดุด่า ก็ด่าตามปกติตามประสาแม่สอนลูก ก็เท่านั้น 

ด้านนายบี (นามสมมติ) พ่อเลี้ยง ได้พาทีมข่าวมาดูกองเสื้อผ้าที่ใส่เมื่อวันที่ 11 ก.พ. และวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ยืนยันว่าตนเองยังคงไม่ได้ซักเสื้อผ้าในทั้ง 2วัน และพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หากสงสัยตนเองสามารถนำไปตรวจสอบได้ พร้อมกับชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนเองให้สัมภาษณ์ไปว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ. มีครูที่โรงเรียนมารับตั้งแต่ 06.00 น. ตนเองไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ตนเองแค่พูดโดยรวมว่า ปกติแล้วช่วงเวลา 06.00 น. ครูที่โรงเรียน ซึ่งจะขับรถผ่านซอยหน้าบ้านของตนเองจะแวะรับลูกสาวไปที่โรงเรียนเกือบทุกวันเท่านั้น หากไม่ทัน น.ส.เอก็จะเป็นคนที่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน 

ประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาภาพสมุดบันทึกของ ด.ญ.ซีมาให้ตนเองดูนั้น นายบี บอกว่า เห็นว่าเป็นสมุดบันทึกที่ลูกสาวได้เขียนคำพูดประมาณว่า “ด่าหนูทำไม” เท่าที่ตัวเองจำได้ ทั้งนี้ประเด็นที่ด่าส่วนใหญ่ ก็จะดุและด่าตอนที่เด็กทำผิด เพราะก่อนหน้านี้น้องเคยโกหกว่าไม่มีการบ้าน ทั้งที่ครูบอกว่าเด็กมีการบ้าน  

นายบี ยังยืนยันว่า คลิปเสียงที่มีการพูดไปก่อนหน้านี้ว่าลูกสาวเป็นคนยืนยันเองว่า มีบุคคล ซึ่งเป็นชายทั้ง 3 คนมากระทำน้อง ด้วยความยาวของคลิปเสียงนั้นมีความยาวถึง 15 นาที