วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 02 .14 น.ร้อยตำรวจเอก อภิวัฒน์ พวกอินแสง รอง สว.สอบสวน สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านลัลลี่วิลล์ ภายในซอยประชาอุทิศ 72 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตทุ่งครุและ ราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้านลัลลี่วิลล์ ซอย ประชาอุทิศ 72 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ทุ่งครุ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านทาวเฮาส์ สูง 3 ชั้นปลูกติดกันหลายหลัง เมื่อเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยมาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วขึ้นสู่ชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 ของตัวบ้าน เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเร่งจัดวางหัวฉีดน้ำดับเพลิงทำการเร่งระงับเหตุอย่างเร่งด่วน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงทำการระงับเหตุเอาไว้ได้
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าวพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ซึ่งทราบชื่อต่อมาชื่อ นาง เกื้อพร อายุ 69 ปี เสียชีวิตอยู่บนชั้นที่ 3 ของบ้านหลังดังกล่าวภายในห้องทำงานและเป็นห้องนอนของสามีของเธอ ในสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณพื้นห้อง สภาพศพถูกไฟลวกไปทั่วร่างกาย เขม่าควันไฟเป็นรอยดำ ผิวหนังบางส่วนของร่างกายเริ่มหลุดลุ่ย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ส่วนถัดมาบริเวณหน้าบ้าน พบผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันเป็นชายอีก 1 ราย ชื่อนาย สุชาติ อายุ 71 ปี อาชีพเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น จนอาการดีขึ้นผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ประสงค์ที่จะไปโรงพยาบาล
และจากการสอบถาม นาย สุชาติ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าระเบิด ตนยืนยันว่ารถจักรยานไม่ได้ทำการชาร์จแบต ตั้งเอาไว้เฉยๆ จอดไว้เฉยๆหน้าบ้าน อยู่ภายในรั้วบ้านลานจอด ไม่ได้ชาร์จไฟด้วย ได้ยินเสียงระเบิดตอนหลังตอนที่ตนลุกขึ้นมาฉี่ได้ยินเสีงโครมคราม ตนก็คิดว่ามีคนทะเลาะกันหรือเปล่า ก็เลยลงมาดูก็มีแสงไฟขึ้นแล้ว และก็ลุกลามเข้าบ้าน ข้างในบ้านตนมีถังดับเพลิง ตนฉีดข้างในแล้ว แต่เอาไม่อยู่ไม่ถังเดียวไม่พอ ปกติที่บ้านอยู่กันสองคน สองตายาย ลูกไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลังฐานได้เก็บเศษซากของแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้า และซากของรถจักรยาน ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตแพทย์นิติเวชได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ดังกล่าวต้องรอผลจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Advertisement