ดีเอสไอพิสูจน์ 8 จุดเจ้าพระยาหาความจริง แตงโมหายจากเรือไปกี่โมง?
ดีเอสไอพิสูจน์ 8 จุดเจ้าพระยาหาความจริง แตงโมหายจากเรือไปกี่โมง? ขณะที่ปานเทพ-อัจฉริยะแฉ 3 ประเด็นใหม่ จ่อเปิดหลักฐานสำคัญ มั่นใจฆาตกรรมแน่นอนพรุ่งนี้
วันที่ 17 ก.พ. 68 ที่อู่เรือเล็ก นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และนาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์กรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดปฏิบัติการ นำพนักงานสืบสวนผู้เชี่ยวชาญ 25 นาย ใช้เครื่องมือพิเศษ (โซนา) ตรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดลำน้ำตามพิกัด GPS เพื่อค้นหาความจริง 8 จุด คดีแตงโมนิดาเสียชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยนายปานเทพ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วเราทำการทดสอบ โดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในฐานะผู้สังเกตการณ์ แต่ครั้งนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเป็นผู้ดำเนินการโดยเราเป็นผู้สังเกตการณ์ และร่วมเป็นสักขีพยานด้วย โดยวันนี้จะไปจุดที่สนใจ 8 จุดและทำการสำรวจ เพื่อเก็บรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงการดูภูมิประเทศ และสภาพใต้น้ำ เพื่อนำมาประกอบจุดที่เราให้ความสนใจ ไม่ได้แปลว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำเฉพาะจุดที่เราสนใจ แต่หากกรมสอบสวนคดีพิเศษมีประเด็นใดที่เห็นว่าจะเป็นประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อคดี เขาก็จะสำรวจต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้จะมีการลงพื้นที่สำรวจทั้งหมด 8 จุด ตามแผนงานที่ดีเอสไอวางไว้ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะใช้โดรนบินทางอากาศด้วย และสำรวจทางน้ำด้วย จะมีเรือทั้งหมด 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และดีเอสไอ 6 ลำ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีการทำไปแล้วครึ่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องเลเซอร์สแกน เนื่องจากต้องทำตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อไม่ให้เสียเวลามาก เมื่อวานจึงมาทำไว้ก่อนและวันนี้จะเป็นการทำให้สื่อมวลชนได้ดู
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ทั้งนี้ทางการข่าวของเราทราบว่าจะมีบุคคลบนเรือส่งบุคคลภายนอกเข้ามาก่อกวน ดังนั้นวันนี้เรามีการวางข้อกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และไม่มีเข้ามาป่วนใดๆ ทั้งสิ้น เข้ามาก็หิ้วตัวเลยโดยใช้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของดีเอสไอทำการสแกน ใช้โดรนบินสังเกตบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้วิธีหิ้วตัวไปที่ห้องขังของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรอสอบสวนต่อไป
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยไปสำรวจเองในช่วงเวลากลางคืน และมีข้อสังเกตหลายประการ เพราะหากทำกลางวันกับกลางคืนจะแตกต่างกัน กลางคืนเราจะเห็นว่าถ้าเรือลำเกิดเหตุไปติดผักตบ เครื่องเซ็นเซอร์จะร้องมาที่ตัวพวงมาลัย และตัวเครื่องยนต์ก็จะร้อง พอร้องปั๊บใบพัดก็ต้องหยุด ดังนั้นหากมีการตกจริงตามคำพูด ของนายแซน วิศาพัชว่า แตงโมตกไปโดนใบพัดเรือจริง รับรองว่าเรือในช่วงเวลา 22.34 น. เรือต้องจอดทันที เพราะตัวเซ็นเซอร์จะตัดใบพัดไม่ให้เครื่องยนต์สามารถไปต่อได้ ซึ่งเราได้ทำการทดลองถึง 5 ครั้งในเวลากลางคืน
จุดที่สองคือในเวลากลางคืน เราจะเห็นแสงไฟของสองข้างทางสว่างมาก ดังนั้นการปัสสาวะท้ายเรือเลิกพูดได้เลย จบไปแล้ว เพราะสองข้างทางมีร้านอาหารหลายร้าน มีวัด โรงเรียน บ้านชาวบ้านอยู่ริมสองฝั่ง ตัดไปเลยเรื่องปวดปัสสาวะท้ายเรือ และห้องน้ำในเรือก็ไม่ได้เสีย แต่เป็นการเอาของไปใส่ภายหลัง เป็นการสร้างสถานการณ์โดยการเอาน้ำเปล่าจำนวน 2 แพ็กไปใส่ในห้องน้ำเรือ เป็นการทำตอนหลัง ไม่ใช่ตอนแรก ดังนั้นคำพูดของนายปอที่ให้การไว้กับศาลและอัยการ รวมถึงตำรวจ ตนยืนยันว่าเรือลำนี้ห้องน้ำไม่ได้เสีย และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
ส่วนเรื่องบาดแผลของใบพัดเรือก็พิสูจน์ในศาลอาญาไปแล้วว่าบาดแผลของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งได้ข้อยุติไปแล้ว และศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว ดังนั้นในขณะนี้สิ่งที่เรากำลังหาในวันนี้คือน้องแตงโมหายจากเรือไปกี่โมงกันแน่ แค่นั้นเอง มันจะเป็นปริศนาแล้วว่า หากเราพิสูจน์ได้ว่าน้องแตงโมหายไปจากเรือช่วงเวลากี่โมงก็แสดงว่า สิ่งที่ตำรวจทำมาเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น รวมถึงคนบนเรือก็เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นมันจะกระทบกับคดีที่เราจะมีการขอแก้ไขคำฟ้อง และจะมีคดีที่ฟ้องได้เลยว่าสิ่งที่มีคำพิพากษาออกมาแล้วอาจจะเป็นโมฆะตามกฏหมายที่เรามีการวางแผนไว้แล้ว ซึ่งเป้าหมายของเราจะขอให้เป็นคดีพิเศษในเดือน เม.ย. เป็นข้อหาใหม่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีเดิมชุดตำรวจเดิม เราก็มีการวางแผนไว้หลายคดี ทั้งเรื่องการค้ามนุษย์ การทำร้าย เว็บพนันออนไลน์ กระบวนการยาเสพติด รถเถื่อน การฟอกเงิน รวมถึงการเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐในการทำคดีแตงโม และผู้สนับสนุนหรือพยานที่มีการมาเบิกความเท็จต่อศาล หรือเบิกความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งก็ต้องโดนหมดรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 100 คนแน่นอน
ด้านนายปานเทพ กล่าวว่า 3 ประเด็นสำคัญที่มีการสำรวจในช่วงกลางคืนครั้งหลังสุด 1.พื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาในเวลากลางคืนสว่างพอที่จะเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งคนตกน้ำ และพื้นที่สว่างเช่นนั้นไม่เหมาะแก่การปัสสาวะของผู้หญิงกับผู้ชายที่อยู่บนเรือจะไปปัสสาวะท้ายเรือท่ามกลางแสงสว่างเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นความสว่างจึงเป็นสาระสำคัญในข้อแรกของการสำรวจตอนกลางคืน 2.การสำรวจแม่น้ำเจ้าพระยามีสถานที่อำนวยความสะดวกในการปัสสาวะ โรงแรม ร้านอาหาร รีสอร์ต จนถึงบ้านเรือนทั่วไปที่สว่างไสว พร้อมที่จะเป็นพื้นที่สำหรับปัสสาวะได้ ประกอบกับสาเหตุสำคัญของการที่จะไปปัสสาวะท้ายเรือไม่น่าจะมีมีเรื่องห้องน้ำในเรือ เพราะห้องน้ำ ในเรือไม่ได้เสีย ประกอบกับแตงโมได้ปัสสาวะที่ร้านอาหารครัวตานิดแน่นอน ซึ่งขัดแย้งกับคนบนเรือที่มีการออกรายการทีวีว่าน้องแตงโมไม่ได้ปัสสาวะ
และ3.ประการสุดท้าย ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่ไม่ได้อยู่ในคดีแรกเลยก็คือเราเพิ่งสังเกตได้ว่าหากมีการปั่นโดน แม้กระทั่งผักตบชวาเรือก็จะหยุดทันที เพราะมีเซ็นเซอร์อันนี้เป็นประเด็นใหม่ และเป็นสาระสำคัญ ถ้าเช่นนั้นแตงโมจะโดนใบพัดเรือได้อย่างไร ซึ่ง 3 เหตุผลนี้ แม้สำรวจคืนเดียวเราก็เห็นว่าการโดรนใบพัดเรือการตกน้ำ และการปัสสาวะไม่สมเหตุสมผล และผิดธรรมชาติ น่าจะมีการโกหกเกิดขึ้นแน่นอนเพราะฉะนั้นวันนี้เป็นการสำรวจเพิ่มเติม เมื่อคืนก็สำรวจไปแล้วของดีเอสไอวันนี้เป็นการสำรวจเพิ่มเติม เพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็น และเป็นสักขีพยานที่ทำคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับเรือวันนี้ที่วิ่งก็วิ่งตาม GPS ของเรือที่เกิดเหตุ โดยจะมีการติดตั้ง GPS ของเรือที่เกิดเหตุของวันที่ 24 ก.พ.65
นายอัจฉริยะยังกล่าวถึงโทรศัพท์ของแตงโมว่า ข้อมูลในโทรศัพท์เป็นของจริง แต่อีมี่เครื่องไม่ใช่ของจริง ซึ่งเครื่องที่มีการส่งไปให้ได้บังแจ็คที่สหรัฐอเมริกามีการถ่ายข้อมูลลงในเครื่องใหม่ ไม่ใช่อีมี่เครื่องต้นฉบับของแตงโม และคนที่ส่งไปก็เป็นอดีตนักการเมืองร่วมกับแม่ของแตงโมในการส่งโทรศัพท์มือถือไปให้บังแจ็ค
ประเด็นต่อมาเราก็มีหลักฐานอีกว่า อดีตนักการเมืองก็มีการส่งผ้าขาวไปให้บังแจ็คโดยเรามีภาพคนที่ส่งเป็นรองโฆษกของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ได้มีการส่งไป และบอกด้วยว่าให้ส่งผ้าขาวกลับมาให้ แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมีการกระตุ้นให้บังแจ็คออกไลฟ์สด ดังนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังในการส่งมือถือ และผ้าขาวไปให้บังแจ็คเป็นการลวงโลกว่าเป็นผ้าของแตงโมก็คืออดีตนักการเมืองที่ทำเรื่องนี้กับตนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์บางอย่าง และเป็นบุคคลที่โทรมาด่าตนว่า 3 ปีที่แล้วไม่ให้ตนฟ้อง ต่างจากที่ตนฟ้องที่ศาล ตนไปแล้วและคนๆ นี้ไม่ให้ตนฟ้อง และไปหลอกแม่ของแตงโมว่าถ้าฟ้องแล้วแม่แตงโมจะโดนคดีได้ ซึ่งตนจะเปิดหลักฐานให้ดูว่าบุคคลใดที่เอามือถือที่ไม่ใช่เครื่องต้นฉบับไปส่งที่สหรัฐอเมริกา และส่งผ้าขาวที่อเมริกา เขาทำกันเป็นทีม เรามีภาพหลักฐานเรียบร้อยหมดแล้ว
นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องโทรศัพท์เราผิดสังเกต ตั้งแต่มีคนบางกลุ่มรู้ล่วงหน้าว่าเครื่องนี้ไม่ใช่เครื่องแตงโมจริง ซึ่งเราได้สังเกตเรื่องนี้มาสักพักนึงแล้ว แต่ว่าจะจริงหรือไม่จริง ต้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามในที่สุดก็จะต้องสืบได้ เพราะเขาลืมไปหนึ่งข้อว่า โทรศัพท์แม้จะลบข้อมูลแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือการกู้ Gmail ของแตงโม และเข้าไปใน iCloud กู้ข้อมูลสำเร็จ ทำให้ภาพที่หายไปกลับขึ้นมาได้ ดังนั้นเมื่อคืนเราก็ตรวจสอบบางเรื่องเพื่อจะดูว่าข้อมูลจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่อง SMS แจ้งข่าวของโทรศัพท์ที่กู้คืนมาได้ว่าตรงกับสภาพข้อเท็จจริงหรือไม่ พบว่าข้อมูลถูกต้อง แต่โทรศัพท์ถูกสลับ ซึ่งมีคนพยายามที่จะสลับโทรศัพท์ต้นฉบับไป ซึ่งน่าจะมีการวางแผนสองชั้น เรื่องนี้ย้อนกลับไปดูได้เลยว่าใครพูดบ้าง ซึ่งมีคนพูดเรื่องนี้เพียงแค่สองคนที่พูดโทรศัพท์ไม่ใช่เครื่องจริง และรู้ล่วงหน้า ซึ่งตนเชื่อว่าดีเอสไอจะเปิดทั้งหมดว่าเป็นกระบวนการทำในขั้นตอนไหน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า พรุ่งนี้ตนจะให้นายปานเทพเปิดหลักฐานสำคัญที่เชื่อว่าเป็นฆาตกรรมให้ดู ขอให้ติดตามนายปานเทพ เพราะตนให้ภาพและหลักฐานไปทั้งหมดแล้ว จะเป็นการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม
ส่วนเรื่องผ้าขาวนั้นนายอัจฉริยะ กล่าวว่า อดีตนักการเมืองที่ส่งผ้าขาวไปให้บังแจ็คอ้างว่าเป็นผ้าที่น้องแตงโมที่คนของเขาเก็บได้ ก็เลยส่งไปให้บังแจ็คเพื่อตรวจดีเอ็นเอและคาบเลือด ปรากฏว่าเป็นผ้าที่ซื้อจากสำเพ็ง ซึ่งเรามีหลักฐานหมดแล้ว
ขณะที่นายปานเทพ กล่าวว่า บังแจ็คกลายเป็นแพะรับบาปถูกวางยา ซึ่งจากนี้เชื่อว่าดีเอสไอจะตรวจสอบ และความจริงจะปรากฏทั้งหมด เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจว่าในขณะนี้ข้อมูลในโทรศัพท์ที่กู้มาได้เราตรวจสอบบางเรื่องแล้วพบว่ามันสอดรับกับข้อเท็จจริง ทั้งนี้เราได้ตรวจสอบแล้วว่าคนที่เขียนหน้ากล่องที่ส่งโทรศัพท์ไปให้บังแจ็คที่สหรัฐอเมริกาไม่ใช่แม่ของแตงโม แต่เป็นอดีตภรรยานักการเมืองคนหนึ่งที่ไปกับแม่ของแตงโมด้วย ในวันที่ไปส่งโทรศัพท์มือถือ จากนี้ดีเอสไอต้องนำมือถือ เครื่องนี้ไปตรวจสอบกับตำรวจว่าวันที่มีการส่งมือถือกันจากคนบนเรือให้ตำรวจตรวจสอบเป็นเครื่องเดียวกับเครื่องนี้หรือไม่ และตำรวจคืนมาให้แตงโมเป็นเครื่องเดียวกันหรือไม่ ใครทำอะไรไว้ก็จะสนองกลับไปหมด
นายปานเทพ กล่าวว่า มีคนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มากเท่าไหร่เราก็ต้องกวาดทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าคนเหล่านั้นจะกลับตัวมาเป็นพยาน หรืออยากเป็นจำเลยร่วม ซึ่งตอนนี้ตอนยืนยันว่ามีหลายคนต้องการเปลี่ยนตัวเองมาเป็นพยาน และให้ข้อเท็จจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นโอกาสสุดท้ายที่หลายคนไม่ว่าจะจะเป็นใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้สามารถเปลี่ยนตัวเองมาเป็นพยานได้ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจ
Advertisement
