วันนี้(18 ก.พ. 68) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ร่วมกับสืบนครบาล และ บก.น.2 กว่า 50 นาย ร่วมกันเปิดปฎิบัติการ “ทลายรังปลวก” พร้อมนำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.77/2568 ลงวันที่ 14 ก.พ.68 เข้าตรวจค้น บริษัท ลัคคิง จำกัด ตั้งอยู่ ชั้น 8 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ถนนรัชดาภิเษกซอย 11 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ พร้อมจับกุมนาย MR.ZHANG HONGXIANG อายุสัญชาติจีน บอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
พร้อมตรวจยึดของกลาง ป้ายบริษัท ลัคคิง จำกัด, บัตรห้อยคอพนักงาน 13 ใบ, เสื้อโปโล โลโก้ลายปัก LUCKKING จำนวน 8 ตัว, วงล้อเสี่ยงทาย จำนวน 1 อัน, แผ่นสติกเกอร์คิวอาร์โค๊ดไลน์ LUCKKING 1 แผ่น, แผ่นคูปองเติมเงิน LUCKKING จำนวน 10 ใบ, โบชัวร์ จำนวน 1 ชุด, อุปกรณ์สำหรับไลฟ์สด 1 ชุด, เอเทอร์นอล ฮาร์ดดิส จำนวน 3 อัน, ไข่ทองสำหรับจับรางวัล จำนวน 1 กล่อง, สมุดโน๊ต จำนวน 13 เล่ม, เอกสารที่เกี่ยวข้องของบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวนหนึ่ง และตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ขยายผลการจับกุม 2 บอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ สน.หัวหมาก คือ นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 29 ปี และ นายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Li Weijie) อายุ 30 ปี ทั้ง 2 สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบอสคอลเซ็นเตอร์ในตึก 25 ชั้น เมืองปอยเปต โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านหรูย่านรัชดาภิเษก จากนั้นมีการขยายผลโดยพบกระเป๋าวอลเล็ตลับ จนนำไปสู่การอายัดเงินได้จำนวนกว่า 2.4 ล้าน USDT หรือเป็นจำนวนประมาณ 84 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดและอายัดไว้ได้ทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท และยังพบหลักฐานว่าทั้งสองพัวพันกับการเป็นธุระ จัดหาคนไปยังพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก ต่อมาพบหลักฐานจากข้อมูลโทรศัพท์บอสชาวจีนทั้ง 2 ราย ว่าได้เป็นแอดมินควบคุมระบบเว็บไซต์ที่ใช้หลอกเอาข้อมูลคนไทย โดยมีการเปิดบริษัทชื่อว่า “บริษัท ลัคคิง จำกัด” ไว้บังหน้า เพื่อใช้ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล นำไปขายให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริษัท พบบอสชาวจีน 3 ราย โดย 2 ราย ที่ถูกจับไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.
ต่อมา พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 กก.สส.บช.น. นำกำลังไป จับกุม MR.ZHANG HONGXIANG สัญชาติจีน บอสคนสุดท้าย ของบริษัทลัคคิง ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยรัชดาฯ 11 และจากการตรวจค้นห้องพักพบของกลางหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 9 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง, แฟ้มเอกสารบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวน 5 แฟ้ม, แฟลชไดรว์จำนวน 6 อัน, ใบรับเงินเดือนจำนวน 1 ชุด และสติกเกอร์บริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวน 1 ชุด
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สำหรับบริษัทแห่งนี้ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับการขายวัสดุก่อสร้างได้เพียง 3 เดือน โดยบริษัทแห่งนี้จะมี 2 บอส มาประชุมเพื่อวางแผนในการหลอกลวงประชาชนด้วยการออกอุบายเล่นเกมวงล้อ โดยผู้ที่ชนะจะได้รางวัลใหญ่เป็นไอโฟน 16 ซึ่งผู้เล่นจะต้องติดต่อเล่นเกมผ่านช่องทางไลฟ์สดในแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก โดยเสียค่าเข้าเล่นเกมครั้งละ 100 บาท เมื่อถูกรางวัลทางพนักงานจะติดต่อกลับโดยมีสคริปต์ที่ใช้ในการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะขอข้อมูลส่วนบุคคลและเลขหลังบัตรประชาชนอ้างเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนในการรับรางวัล โดยมีข้อมูลรั่วไหลกว่า 88,000 รายชื่อ ในห้วงเวลาเพียง 3 เดือน เบื้องต้นพบผู้เสียหายในระบบจํานวน 85 ราย ความเสียหาย 55 ล้านบาท ตามยึดทรัพย์ได้ 84 ล้านบาท อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อเฉลี่ยทรัพย์สินคืนผู้เสียหาย
หลังจากนี้ตํารวจจะขยายผลต่อว่าใน 88,000 รายชื่อนั้น ถูกนําไปใช้ในการกระทําความผิดแล้วหรือไม่ และเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับ “แก๊งโอริโอ้” ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีการรับสารภาพกับตํารวจว่าซื้อข้อมูลมาจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อใช้ในการประกาศไล่เช็คบิลคู่อรินอกเกม Five M
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การตรวจค้นและจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลร่วมกับชุด PCT และ สน.สุทธิสาร ได้สนธิกําลังนั่งรถเมล์ ขสมก. เปิดปฏิบัติการ “ทลายรังปลวกบอสจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์” โดยนั่งมาจากศูนย์สืบนครบาลมายังบริษัทดังกล่าวที่ตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก เมื่อมาถึงได้เข้าจู่โจมทันที สามารถจับกุมพนักงานคนไทยกว่า 10 ราย แต่มีบางส่วนหลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวดําเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงให้เล่นเกมต่าง ๆ บนแอปพลิเคชั่น และเมื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคลไป อาจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปใช้หลอกลวง และเสียทรัพย์สินได้
เบื้องต้นจึงนำตัว MR.ZHANG HONGXIANG ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นบุคคลต่างอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง” และ“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ส่วนพนักงานทั้ง 10 ราย ดำเนินคดีข้อหา จัดให้มีการเล่นพนัน ตาม พ.ร.บ.การพนัน ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement