Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ป้าวัย 61 ถูกสแกมเมอร์หลอกเหลือเงินติดตัว 3 บาท

ป้าวัย 61 ถูกสแกมเมอร์หลอกเหลือเงินติดตัว 3 บาท

19 ก.พ. 68
13:40 น.
|
20K
แชร์

ป้าวัย 61 พบรักหนุ่มต่างชาติ ลูกหลานเตือนไม่ฟัง หาว่าขัดขวางความรัก สุดท้ายถูกสแกมเมอร์หลอก สูญเงินกว่า 4 แสน เหลือเงินติดตัว 3 บาท

วันนี้ (19 ก.พ.68) ป้าวัย 61 ปี เดินทางมาร้องสายไหมต้องรอด เล่าว่า เธอคบหาแฟนหนุ่มต่างชาติ รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กมานานประมาณ 4 เดือน พูดคุยกันถูกคอ แฟนหนุ่มจึงตัดสินใจเดินทางมาหาที่ประเทศไทย แต่ถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ยังไม่ถูกปล่อยมา ยายต้องโอนเงินไปจ่ายค่าปรับทุกวันรวมๆแล้วเกือบ 4 แสนบาท ต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่าย ลูกๆเตือนยายว่าถูกหลอกยายก็ไม่เชื่อ บอกว่าไม่จริง ไม่ได้ถูกหลอก อย่ามาขัดขวางความรัก วันนี้ยายเหลือเงินติดตัว 100 กว่าบาท หมดตัว แต่ยังเชื่อว่าแฟนหนุ่มถูกจับอยู่ที่สนามบินจริงๆ

นางณัฐหทัย หรือ ป้ากุ้ง อายุ 61 ปี เข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกมิจฉาชีพออนไลน์ใช้มุก หลอกให้รัก ก่อนอ้างว่าถูกตำรวจไทยจับเป็นตัวประกัน จนต้องโอนเงินช่วยเหลือไปกว่า 400,000 บาท แต่ปัจจุบันป้ากุ้ง ยังเชื่อว่าชายคนนั้นมีตัวตนจริง

โดยป้ากุ้ง เล่าว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2567 มีชายคนหนึ่งทักมาในเฟซบุ๊ก แนะนำตัวว่าชื่อมาร์ค อายุ 58 ปี เป็นชาวฟิลิปปินส์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พูดคุยกันไปมาจนสนิทและเริ่มพัฒนาเป็นความสัมพันธ์แบบคนรัก

ต่อมาเดือนพฤศจิกายน มาร์คบอกว่าจะส่งเงินมาให้ 25,000 ดอลลาร์ พร้อมเครื่องประดับเพชร สร้อยคอ แหวน นาฬิกา แต่เนื่องจากไม่มีบัญชีธนาคาร จึงต้องส่งพัสดุผ่านไปรษณีย์ไทย เมื่อของมาถึงประเทศไทย ป้ากุ้งได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ จะต้องเสียค่าภาษีพัสดุจำนวน 3,000 บาท แต่พอจ่ายไปแล้ว กลับถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 7,000 บาท ซึ่งตนไม่มีเงินมาร์ค จึงช่วยออกให้ 3,000 บาท และให้ป้ากุ้งจ่ายเพิ่ม 4,000 บาท

แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น พัสดุกลับถูกอายัดต่อที่กรมศุลกากรอ้างว่าเป็นเครื่องประดับมีค่า ต้องเสียภาษีเพิ่มอีกหลายหมื่นบาท ป้ากุ้งจ่ายไปเรื่อย ๆ รวมแล้ว 200,000 บาท โดยที่ตัวเองจ่ายไป 40,000 บาท และมาร์คช่วยจ่าย 160,000 บาท แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ของ เพราะอ้างว่ายังติดขั้นตอนเซ็นเอกสารจากตัวมาร์คเอง

จากนั้นถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน มาร์คอ้างว่าจะบินมาไทยเพื่อมาจัดการเรื่องพัสดุ แต่หลังจากเดินทางมาถึง กลับบอกว่าถูกตำรวจจับ และต้องการเงินไถ่ตัว ตอนแรกเรียก 2,000 บาท แต่หลังจากนั้น มีการเรียกเงินเพิ่มทุกวันวันละ 2,000 , 1,000 จนล่าสุดตนไม่มีเงินเลยต้องจ่ายวันละ 500 บาท ถ้าวันไหนไม่ให้ ตำรวจก็จะมีการนำตัวนายมาร์คไปทำโทษ โดยพาไปทำสวนหรือตักน้ำ โดยตำรวจคนนั้นอ้างว่าตำรวจเป็นระดับผู้ใหญ่ และถ้าไม่จ่ายมาร์คอาจถูกฆ่า

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการส่งรูปมาร์คถูกช็อตไฟฟ้า และเสียงร้องมาแสดงความเจ็บปวด เมื่อป้ากุ้งเห็นแบบนั้นก็ยิ่งเชื่อ จึงโอนเงินช่วยไปอีกกว่า 400,000 บาท รวมแล้วเธอสูญเงินไปกว่า 440,000 บาท โดยต้องไปยืมเงินจากครอบครัวและเพื่อนฝูง จนเป็นหนี้สินทุกวันนี้ไม่มีใครคบ

ป้ากุ้งยอมรับว่า รู้เรื่องมิจฉาชีพออนไลน์มาบ้าง แต่เธอมั่นใจว่ามาร์คมีตัวตนจริง เพราะเคยเห็นหน้าในวิดีโอคอล และได้ยินเสียงคุยกันโดยตรง ตอนนี้เธอหมดตัวแล้วไม่มีเงินให้มาร์คอีก แต่ยังอยากให้ “สายไหมต้องรอด” ช่วยนำตัวมาร์คออกจากตำรวจไทย เพราะมาร์คบอกว่าพกเงินมาไทยหลายล้านบาท หากออกมาได้จะคืนเงินให้ทั้งหมด

แม้ป้ากุ้งจะสูญเงินไปเยอะ และถูกลูกเตือนมาก่อนว่าโดนหลอก แต่เธอยังเชื่อว่ามาร์คไม่ได้โกหก และหวังว่าทาง สายไหมต้องรอดจะช่วยเธอให้มาร์คเป็นอิสระ จากการถูกตำรวจจับตัวประกันครั้งนี้

ทุกวันนี้ป้ากุ้งเครียดมากบางวันอยากจะฆ่าตัวตายไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะไม่มีเงินไปจ่ายให้กับตำรวจ และยังไปกู้หนี้ยืมสินมาจากเพื่อนฝูงครอบครัว จนทุกวันนี้แทบจะไม่มีใครคบหรือคุยด้วยแล้ว

โดยป้ากุ้ง ยืนยันว่าตอนนี้ตนเองเหลือเงินติดตัวเพียง 3 บาทเท่านั้น ก่อนจะควักเหรียญบาท 3 บาทออกมาให้ดู

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ชี้แจงกับป้ากุ้งว่านายมาร์คไม่มีตัวตนจริง แต่เป็นมิจฉาชีพประเภทโรแมนซ์สแกม หรือ แก๊งสแกมเมอร์ ที่ใช้วิธีทักแชตพูดคุยกับผู้สูงอายุ อ้างว่าจะส่งเงินและของมีค่าให้ ก่อนจะหลอกให้โอนเงิน ซึ่งมีเหยื่อจำนวนมากเคยตกเป็นเหยื่อกลโกงแบบนี้

นายเอกภพระบุว่า จะพาป้ากุ้งไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพและติดตามเงินคืน พร้อมฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรระมัดระวังมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของความรักและความห่วงใย

อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าคนที่โดนหลอกก็มักจะเชื่อจริงๆ ไม่อยากให้ไปต่อว่าคุณป้า เพราะใครเจอแบบนี้ก็มีโอกาสหลงเชื่อได้ พร้อมยืนยันว่าจะประสานตำรวจอายัดบัญชีมิจฉาชีพทั้งหมด และออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี เพราะป้ากุ้งถูกหลอกให้โอนไปหลายบัญชี เชื่อว่าสามารถติดตามเงินคืนได้อย่างแน่นอน

Advertisement

แชร์
ป้าวัย 61 ถูกสแกมเมอร์หลอกเหลือเงินติดตัว 3 บาท