เหยื่อแก๊งทะลุถุง "K6" ร้องสายไหมต้องรอด ป่วนใช้อาวุธยิงทั่วหมู่บ้าน
เหยื่อแก๊งอันธพาล "K6" ร้องสายไหมต้องรอด แก๊งทะลุถุงชื่อดัง ป่วนใช้อาวุธไล่ยิงทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่กล้าเเจ้งความ หวั่นไม่ปลอดภัย
จากกรณี วันนี้ (19 ก.พ.68) เหยื่อ แก๊งอันธพาล "K6" แก๊งทะลุถุงชื่อดัง ได้เดินทางมาร้องที่เพจสายไหมต้องรอด หลังคนในหมู่บ้านเดือดร้อนหนัก ถูกแก๊ง "K6" ป่วนใช้อาวุธปืนไล่ยิงคนไปทั่วหมู่บ้าน ไม่พอใจบ้านไหนก็บุกเอาปืนไปยิงใส่บ้าน จนชาวบ้านต่างหวาดกลัว หากบ้านไหนแจ้งความจะโดนข่มขู่หนัก บางบ้านต้องย้ายหนี บางบ้านโดนยิงถล่มไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง แจ้งความคดีเงียบเป็นเป่าสาก หมดหนทาง จึงตัดสินใจมาร้องสายไหมต้องรอดในวันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เผยว่า มีแก๊ง K6 ไม่เเน่ใจว่าย่อมาจาก คลอง6 หรือไม่ ผู้เสียหายบอกว่ามีเหตุเกิดขี้นมาเเล้วหลายครั้ง เเละล่าสุดเกิดปัญหากับเขาเอง เขาเปิดร้านค้า อีกฝ่ายก็เอาปืนยิง หรือบางคนมีการขับรถผ่านไม่พอใจก็เอาปืนยิง ผู้เสียหายเเจ้งความไว้ที่ สภ.ลำลูกกา เเล้ว
ก่อนหน้านี้ลำลูกกาเปลี่ยนไปเยอะ เเละมีบ้านพักอาศัยเกิดขึ้นมากขึ้น ราคาไม่เเพง กลุ่มคนหลากหลายเข้ามาอยู่เเละเป็นจุดเริ่มต้นของอาชญากรรม วันนี้ตนจะลงพื้นที่ไปดู เเละประสาน ผกก.สภ.ลำลูกกา เพื่อส่งตำรวจลงมาดูด้วย บางทีเยาวชนถ้าใช้โอกาสมาก ก็ไม่มีประโยชน์ เเละก่อเหตุซ้ำซาก
ด้าน นายอภิวัฒน์ จันทานี อดีตประธานชุมชนเคหะวัดประชุมราษฎร์ คลอง 6 เล่าว่า เด็กกลุ่มนี้อายุตั้งเเต่ประมาณ 12-25 ปี มีจำนวนประมาณ 15 คนได้ เด็กในละเเวกเเถวนั้น มีเหตุโจรกรรมลักรถด้วยหลายร้อยคัน กระสุนใช้ .45 ซึ่งส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มักจะใช้เยาวชนในการก่อเหตุ หัวหน้าแก๊งชื่อ โต้ อายุ 24 ปี เลยรอดมาตลอด บางครั้งทะเลาะกันเองในกลุ่ม เพราะเด็กบางคนโตเเล้วอยากออกจากกลุ่ม เเต่กลับกลายเป็นว่าชาวบ้านถูกลูกหลงเดือดร้อนเเทน กลุ่มเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว เเละคาดว่าน่าจะมีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนใหญ่พี่สาวของนายโต้ จะออกมาเคลียร์ให้กับผู้เสียหาย
พฤติกรรมคือใครแปลกหน้าเข้ามาเค้าก็จะใช้วิธีการให้เด็กขับรถไล่ตามและไล่ยิง โดยบางครั้งเข้าใจผิดว่าผู้เสียหายเป็นคู่กรณี แต่เมื่อพบว่าเป็นการเข้าใจผิดก็แค่ทักไปขอโทษเท่านั้น บางบ้านเเค่จอดรถหน้าบ้าน เขาไม่พอใจก็เอามาปืนมาขู่หน้าบ้าน
ภายใน 1 ปีก่อเหตุ 4 ครั้ง (2567-2568) ครั้งแรกเกิดเหตุวันที่ 31 มกราคม 2567 ผู้เสียหายขับรถออกจากหมู่บ้าน กลุ่มคนก่อเหตุนั่งอยู่ด้านหน้าเเละมีการขับรถไล่ตามเเละยิงเข้าทะเบียน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดว่ารถคันดังกล่าวเป็นคันเดียวกับของคู่อริของกลุ่มผู้ก่อเหตุ โชคดีที่วันนั้นผู้เสียหายไม่ได้พาลูกไปด้วย เพราะกระสุนเฉี่ยวคาซีสของเด็กที่อยู่บริเวณเบาะหลัง
นอกจากนี้ยังมีการเอาปืนยิงถล่มในหมู่บ้าน ยิงตามบ้านและมีการขับรถตามไล่ยิงรถ เหตุครั้งที่ 2 มีเด็กอยู่ในบ้านด้วย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต มีแต่ผู้เสียหายที่ถูกกระสุนเจาะรถ กระสุนเข้าบ้านชาวบ้านถูกลูกหลง ซึ่งเป็นคนในชุมชนไม่มีคู่อริของอีกฝ่ายถูกกระสุนเลย เขาไม่ได้ขู่ชาวบ้านก็จริง เเต่ชาวบ้านไม่มีใครกล้าเเจ้งความ เพราะกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย
ตำรวจเคยตามไล่จับ เเต่กลับกลายเป็นจับได้เเค่คนที่ออกจากกลุ่มไปแล้ว ไม่ได้จับคนก่อเหตุ ยืนยันว่าทุกคนเคยมีประวัติอาชญากรรมหมดเลย เเต่เรื่องยาเสพติดไม่ทราบจริงๆ ช่วงกลางวันจะไม่เห็น จะออกก่อเหตุในช่วงกลางคืน ชาวบ้านยืนยันว่าอยากให้ตำรวจจับให้ได้ เเละจัดการอย่างเด็ดขาดเสียที เพราะทุกคนหวาดผวาไปหมดแล้ว บางบ้านถึงขั้นประกาศขายบ้านเเล้ว
ด้านนายเอี่ยว เผยว่า ตนเปิดร้านขายของชำหน้าชุมชน เเต่ก่อนหน้าวันที่ 29 มกราคม 2568 คู่อริของกลุ่มผู้ก่อเหตุมาซื้อของที่ร้านตน พอน้องเขาออกจากร้านไป เขาก็มาก่อกวนหน้าร้าน มาเบิ้ลรถหน้าร้าน ขับรถวนมาด่า เเละมีการเอาปืนออกมาขู่ด้วย
Advertisement
