วันพุธที่ 9 เม.ย.67 เวลา 10.30 น. ที่ สน.ดอนเมือง ทีมสายไหมต้องรอด พาหญิงผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามี ที่เจอกันในแอปหาคู่ หลังคบหาดูใจได้ไม่นานเริ่มเห็นความผิดปกติ มีอาการเพี้ยนๆ จึงตัดสินใจขอเลิก จากนั้นฝ่ายชายได้บุกมาป่วนที่บ้านย่านดอนเมืองหลายครั้ง จนนับครั้งไม่ถ้วน
ล่าสุดบุกมาหน้าบ้าน ต่อว่าด่าทอ ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย เอาขวดปาใส่บ้านและรถยนต์ จนได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว ทีมสายไหมต้องรอดจึงพามาแจ้งความดำเนินคดี
โดยวันที่ 6 เมษายน 2568 ภาพกล้องวงจรปิด จับภาพบริเวณหน้าบ้านของผู้เสียหายที่อดีตสามีมายืนเกาะประตู ยืนด่า หยาบคาย ข่มขู่ อดีตภรรยา ที่บริเวณหน้าบ้าน ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกัน ก่อนอดีตสามีจะลงมือทำลายทรัพย์สินโดยใช้สิ่งของบางอย่างทุบกระจกรถบานหลังแตก
ต่อมาทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ผู้เสียหายเดินทางมาร้องเพจสายไหมต้องรอดหลังจากที่สอบถามข้อมูล ปรากฏว่าฝ่ายหญิงเจอฝ่ายชายในแอพหาคู่ หลังจากที่ได้ลองคบหากัน ฝ่ายชายมีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเช่น มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ฝ่ายชายพาหญิงไปทานก๋วยเตี๋ยว ซึ่งร้านอยู่แถวบ้านแต่ฝ่ายชายกับพาฝ่ายหญิงขับรถวนนาน 3 ชั่วโมงแล้วกลับมาทานก๋วยเตี๋ยวร้านในซอย ซึ่งทำให้ฝ่ายหญิงประหลาดใจเป็นอย่างมาก
หลังจากเลิกรากันไป ตกลงว่าต่างคนต่างอยู่ แต่ฝ่ายชายไม่ยอมจบ ยังคอยวนเวียนกลับมาก่อกวนผู้เสียหาย ที่บริเวณหน้าบ้านหลายครั้ง ฝ่ายชายมาที่หน้าบ้านต่อว่าด่าทอ และมีพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หนักจนถึงขั้นขับรถชนประตูรั้วบ้านจนได้รับความเสียหาย
ซึ่งผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความแล้ว 8 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ร่วมถึงฝ่ายชายก็ยังไม่หยุด อย่างมาข่มขู่ฝ่ายหญิงเรื่อยๆ ทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าเข้าบ้าน
หลังจากได้รับเรื่องมาแล้วตนเองได้ประสานมายัง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.ดอนเมือง เพื่อให้ช่วยเร่งดำเนินคดีและเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาพูดคุยโดยเร็ว
ทางด้านของ นาง อั้ม (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย 49 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้รู้จักฝ่ายชายชื่อนายภัทร อายุ 58 ปี ผ่านแอปฯหาคู่ เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2565 หลังจากที่ได้พูดคุยกันสักระยะฝ่ายชายเป็นคนดีคอยดูแลเอาใจใส่จนได้คบหากัน หลังจากนั้นระยะเวลาผ่านมาประมาณ 1 ปี ฝ่ายชายเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น เวลาจะกินข้าว 1 มื้อต้องรอให้หิวมากๆถึงจะยอมพาเธอไปกิน
และมีครั้งหนึ่งที่จะออกไปทานก๋วยเตี๋ยวซึ่งร้านอยู่แถวบ้านแต่ฝ่ายชายขับรถนาน 3 ชั่วโมงแล้วกลับมากินร้านเดิม ซึ่งพออยู่ด้วยกันไปสักระยะฝ่ายชายได้กินยารักษาอาการซึมเศร้า ทำให้ทะเลาะกันบ่อยจึงทำให้ตัดสินใจเลิก
ต่อมาตนเองได้เลิกหากับนายภัทร มาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2567 ตอนที่เลิกรากันไปฝ่ายชายไม่ยอมเลิกราขับรถมาวนเวียนหน้าบ้านแต่ยังไม่ได้เข้ามาคุกคามใดๆ ต่อมาเริ่มรุนแรงมากขึ้น ฝ่ายชายมีพฤติกรรมมายืนที่หน้าบ้านแล้วตะโกนด่าทอ
ช่วงวันที่ 8 ตุลาคมปี 67 ฝ่ายชายเดินทางมาที่หน้าบ้านของตนเอง เวลา 22.00น. และได้ขับรถยนต์พุ่งชนประตูหน้าบ้าน จนได้รับความเสียหายทำให้วันนั้นตนเอง รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากประตูบ้านของตนล้มลงไปบนพื้นหน้าบ้าน
ต่อมาวันที่ 15 มีนาคม 2568 ขณะที่ตนเองกำลังเปิดประตูรั้วเข้าบ้านฝ่ายชายเดินมาเข้ามาในรั้วบ้าน เดินเข้ามาหาตนลักษณะคุกคาม มีกลิ่นแอลกอฮอล์บอกว่าคิดถึงตนเอง ซึ่งตัวเองได้ไล่กลับไปและกลัวฝ่ายชายจะเข้ามาทำร้าย
จน วันที่ 6 เมษายน 2568 เหตุการณ์ตามคลิปวิดีโอ ฝ่ายชายมายืนเกาะประตูรั้วแล้วตะโกนด่าทอตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงใช้ขวดตากระจกรถของตนจนแตกละเอียดได้รับความเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นตนเองได้แจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจเพื่อเดินทางมาระงับเหตุ
เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ตนและครอบครัวไม่กล้าที่จะอยู่บ้านเนื่องจากระแวงอดีตสามีที่คอยวนเวียนหวังจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย ตนได้เข้าแจ้งความที่สน.ดอนเมือง มาแล้วถึง 8 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจึงตัดสินใจร้องมาที่เพจสายไหมต้องรอด
ด้าน พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.ดอนเมือง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ไปตามตัว นายบอย มาแล้ว โดยคาดการณ์ว่าน่าจะได้ตัวไวๆนี้ โดยจากโทษ ก็ต่างกรรมต่างวาระ ไม่ว่าจะเป็นข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และทำให้เสียทรัพย์
Advertisement