(20 ก.พ. 68) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี นายนาคร ศิลาชัย หรือ เปิ้ล นาคร นักแสดง เข้าพบเพื่อขอบคุณ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 หลังลุงอายุ 71 ปี และ ป้า อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ของน้องชายคนสนิทของตน ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเงินไปกว่า 6 ล้านบาท และได้เข้าร้องทุกไว้เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา และเพื่อให้ความร่วมมือด้านการป้องกันภัยไซเบอร์ ร่วมกับตำรวจไซเบอร์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ของ บช.ไซเบอร์ ยังไม่สามารถเข้าถึงประชาชนในการสร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันป้องกันภัยไซเบอร์ ได้อย่างทั่วถึง สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและเศรษฐกิจจำนวนมาก จึงได้มีแนวคิด หลังจาก เปิ้ล นาคร และดารานักแสดงหลายคนที่เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา จึงได้การเชิญชวนและขอความร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เป็นการปรามาสความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 3 แสนนาย ว่าทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะกลุ่มดารานักแสดงมีชื่อเสียงและแสงในตัว และไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะจับได้เฉพาะเคสของคนมีชื่อเสียงเท่านั้น
ในส่วนของ เปิ้ล นาคร ที่ก่อนหน้านี้ที่ครอบครัวคนใกล้ชิดตกเป็นผู้เสียหายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์สูญเงินกว่า 6 ล้านบาท ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายจับขบวนการดังกล่าวได้ 9 ราย สามารถส่งฟ้องศาลไปแล้ว 6 ราย เหลืออีก 3 ราย อยู่ระหว่างการติดตามตัว โดยจะมีพฤติกรรมหลอกคนสูงอายุ เกี่ยวกับเรื่องการชักชวนให้ลงทุน มีผลตอบแทนสูง และพบว่าขบวนการนี้เป็นเพียงบัญชีม้าและมีการส่งเงินเข้าระบบคริปโต ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังขยายผลพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย มีการหลอกลวงเหยื่ออีก 31 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลโดยเฉพาะผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำสำนวนเสนออัยการให้พิจารณาเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย โดยเคสของ เปิ้ล นาคร ทางผู้เสียหายก็ดีขึ้นหลังจับคนร้ายได้ โดยก่อนหน้านี้มีอาการป่วยซึมเศร้า
ด้าน เปิ้ล นาคร กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ที่ให้เกียรติและเห็นความสำคัญของตนเอง โดยการเข้าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้ ถือว่าเป็นกุศลที่ทำให้กับประเทศชาติ โดยไม่คิดค่าตัวและมูลค่า เพราะทั้งฝ่ายดารานักแสดงเองและประชาชนต่างก็ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยตนเองและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ก็สามารถประชาสัมพันธ์และให้ความรู้กับประชาชนได้ รวมทั้งการชี้เป้าจนนำไปสู่การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยขณะนี้มีแนวคิดจะใช้กรณีของมารดาตนเองที่เป็นคนชราได้เบี้ยผู้สูงอายุ มักจะมีลิ้งค์ส่งเข้ามาบอกว่า เป็นคนแก่ได้รับเงิน 700-900 บาทต่อเดือน ให้ติดต่อหรือกดลิ้งค์เข้าไปดู ซึ่งเหตุการณ์นี้จะสร้างความเสียหายให้คนสูงอายุเป็นจำนวนมาก ตนเองก็จะหยิบยกเรื่องนี้มาเตือนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ พร้อมเชิญชวนดารานักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนติดตามจำนวนมากออกมาช่วยกันเตือนเพื่อป้องกันปัญหามิจฉาชีพทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เพื่อทำให้ประชาชนปลอดภัยในปัญหาดังกล่าว
Advertisement