กล้องวงจรปิงวงจรปิดบันทึกภาพคลิปเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1กุมภาพันธ์2568 เวลา 22.00 น.ที่บ้านพักหลังหนึ่ง หมู่ 1ตำบลเกษตรสุวรรณ อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ่อทอง ได้รับแจ้งจากกำนัน ต.เกษตรสุวรรณ ว่า มีเหตุได้ยินเสียงคล้ายกับอาวุธปืนดังขึ้นในพื้นที่ จึงไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านพักของจ่าสิบเอกสมทบ อายุ 34 ปี ทหารสังกัดค่ายทหารชลบุรีพั กอาศัยอยู่กับลูกและภรรยา โดยกำนันพร้อมลูกน้องและตำรวจบ่อทองได้ทำการตรวจค้นไม่พบสิ่งของกฎหมาย จนกระทั่งมีปากเสียงกับจ่าสิบเอกสมทบ เจ้าของบ้านเป็นเหตุให้เกิดการวิวาท
โดยจ่าสิบเอกสมทบ ได้ถูกกลุ่มกำนันถูกทำร้ายร่างกายตามภาพที่ปรากฎในคลิป หลังจากเกิดเหตุกำนันและตำรวจได้ทำการจับกุมนายถนัด เพื่อนของจ่าสิบเอกสมทบ ไปดำเนินคดีในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ใ นส่วนจ่าสิบเอกสมทบ ก็ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.บ่อทอง ดำเนินคดีกับกลุ่มกำนันพร้อมพวกที่ทำร้ายร่างกาย
จ่าสิบเอกสมทบ ให้ปากคำพนักงานสอบสวนว่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2568เวลาประมาณ 21.47 น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำโดยนายสรายุทธ์ ตำแหน่งกำนันตำบลเกษตรสุวรรณ ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการตรววจค้นภายในบ้าน อ้างว่ามีคนแจ้งเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า จึงเดินทางมาตรวจสอบขณะที่ทำการตรวจค้นนายสรายุทธ์ ได้ชักอาวุธปินออกมาถือ และได้มีการพูดจาที่ไม่เหมาะสม เป็นเหตุถึงขั้นทำร้าย ตนเองเจ้าของบ้านซึ่งภายในบ้านนั้นมีทั้งผู้หญิงและเด็ก โดยผู้ก่อเหตุและะผู้เกี่ยวข้องมีผู้ก่อเหตุมีดังนี้นายนราเศรษฐ์ นายขจรศักดิ์ นายพงศกร นายประชา นายนพดล และยังมีผู้อื่นอีกที่ยังไม่ทราบชื่อ
โดยจ่าสิบเอกสมทบ ได้เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.บ่อทองอ.บ่อทองจ.ชลบุรีเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.45 น.แต่คดีไม่คืบหน้าจึงมาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีดังกล่าวพร้อมมีภาพคลิปและภาพจากกล้องวงจรปิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำนันที่ก่อเหตุทำร้ายจ่าสิบเอกสมทบ ได้มีการโพสต์บันทึกการจับกุมคนที่ต่อยตำรวจในวันที่เกิดเหตุ นำตัวมาดำเนินคดีที่สภ.บ่อทอง แต่ผู้ถูกจับให้การปฏิเสธ โดยในบันทึกของตำรวจระบุว่าเป็นการวิวาทกันของกลุ่มจ่าสิบเอกทหาร กับกลุ่มชาวบ้านที่มาดูขณะตำรวจและฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามระงับเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุวิวาทมีประมาณ 40 คนจึงไม่สามารถป้องกันเหตุได้จริงปรากฎตามภาพดังกล่าว โดยที่ส่วนนายอำเภอบ่อทองซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของกำนันคนที่ก่อเหตุก็ได้ขอคลิปกล้องวงจรปิดจากผู้เสียหายเพื่อดำเนินการทางวินัยกับกำนันคนดังกล่าว
Advertisement