(27 ก.พ. 68) พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายจากพื้นที่ชายแดนกาญจนบุรี โดยมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย จึงได้สั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ โดย พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136, สถานีตำรวจภูธรไทรโยค, ตม.กาญจนบุรี และฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ ฐานปฏิบัติการช่องทางห้วยโมง บ.ท้ายเหมือง ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ขณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ สังเกตพบกลุ่มบุคคลคาดว่าจะเป็นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง บริเวณชุมชนใกล้กับฐานปฏิบัติการช่องทางห้วยโมง บ.ท้ายเหมือง ต.บ้องตี้ กาญจนบุรี จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าว จำนวน 28 ราย ซุกซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมกลุ่มบุคคลดังกล่าวไว้ทั้งหมด และขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าว ไม่สามารถแสดงเอกสารที่ทางราชการออกให้ได้ และไม่สามารถฟังและพูดสื่อสารภาษาไทยได้ จึงนำตัวส่งต่อ สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.อ.พรรณศักย์ เปิดเผยว่าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลุ่มดังกล่าว ลักลอบหลบหนีเข้ามายังพื้นที่ตอนในของประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ และจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวขึ้นรถเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อไปทำงาน โดยจะเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าเมื่อถึงปลายทาง จำนวน 20,000 บาท แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่ชายแดน ตามมาตรการที่กองทัพบกให้ความสำคัญและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อความมั่นคงของชาติ และความผาสุกของพี่น้องประชาชน
Advertisement