นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาอดีตคนเคยศรัทธา กลุ่มคลื่นพลังบุญ มายื่นหนังสือร้องทุกข์ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดย กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้พาผู้เสียหาย 3 เคสมาร้องกระทรวง สธ. ซึ่งหลายคนเคยเป็นลูกศิษย์เคยมาอยู่ด้วยกันจุดเริ่มต้นหลายคนมาคล้ายๆ กันมีอาการเจ็บป่วย
1. คุณซาร่ามีอาการกรดไหลย้อน เข้าไปทำการรักษากับ "ท่านพี่-น้องหญิง" กลุ่มคลื่นพลังบุญ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าหน้ากล้องบอกเยียวยา หลังกล้องคือรักษาให้เวลา 3 วินาที บอกหาย พร้อมสั่งห้ามกินยารักษาอาการป่วย อ้างว่าการกินยาเท่ากับไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา แต่บางคนแอบกินยา อาการดีขึ้น
2.นายวิทยา วัย 42 ปี ป่วยโรคตับอักเสบเฉียบพลัน ค่าตับจาก 70% เหลือ 20% มารักษาอาการกับกลุ่มคลื่นพลังบุญ อ้างว่าจะเสกตับกลับมาได้
3.นายเอ ช่างปั้น ตามหาภรรยาหายตัว 1 เดือน ครอบครัวลงความเห็นว่าอยากให้ตรวจสุขภาพจิต พบแพทย์
โดยนายวิทยา วัย 42 ปี ผู้เสียหายจากการไปรักษาเปลี่ยนตับทิพย์ เล่าย้อนถึงอาการป่วยโรคตับอักเสบ เป็นโรคที่ตนรักษาหายจากแพทย์แผนปัจจุบันเมื่อปี 2561-2562 แต่เมื่อช่วงต้นปี 2567เห็นคลิปกลุ่มคลื่นพลังบุญจากติ๊กต็อก เลยเกิดความศรัทธา จึงเดินทางไปหาท่านพี่-น้องหญิง
ส่วนตัวว่าจะถามว่าตัวเองมีกรรมอะไร ทางอาจารย์ตอบว่ามี “พญามาร” ติดตามอยู่ ทำใหhป่วยจึงจะใส่ตับทิพย์ให้ โดยเจ้าตัวแสดงการรักษา เอาฝ่ามือมาแสดงพลังใส่ตับทิพย์ให้ หลังจากรักษาก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้น แต่ทางกลุ่มบอกมีข้อแม้ว่าถ้ากินยาเหมือนไม่ศรัทธา เหมือนไม่เชื่อ แต่ที่พีคสุด เคสปลูกตับทิพย์นั้น ก็คือ นายวิทยา ระบุว่า ที่ผ่านมาตนเชื่อการรักษาของกลุ่มคลื่นพลังบุญ ถึงขนาดที่มีการซื้อเสื้อยืดของกลุ่มราคา 200 บาท เชื่อว่าใส่แล้วไม่ป่วย และแก้วน้ำทิพย์ แค่ใส่น้ำเปล่ากลายเป็นน้ำทิพย์ ช่วยไม่ให้ป่วยสารพัด ครอบจักรวาล ซึ่งจากวิธีการที่ตนเข้าไปรักษากับคนกลุ่มนี้ เมื่อไม่กินยาอาการแย่ลง มองว่าแก้ด้วยคลื่นพลังไม่ได้ เพราะต้องไปฉีดยารักษาตัวเหมือนเดิม
ด้านนายธนกฤต จิตอารีรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เคยเตือนคนกลุ่มนี้ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีการรักษาคนไข้ด้วยวิธีแบบนี้อีก ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยจะต้องมีการดูในข้อกฎหมายว่า การใช้คำว่าเยียวยา เป็นคำพูดที่เลี่ยงบาลีหรือไม่ แต่ได้ข้อสรุปที่ว่า วิธีการที่ทำอยู่นั้นบ่งบอก ถึงการประกอบวิชาชีพทางเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างกรณีไปบอกผู้ป่วยมะเร็งให้ใช้ เพิ่มพลังบุญในการรักษาโรคไม่ไปรับยาตรงนี้เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมาก รวมถึงการรักษาคนป่วยโรคอื่นๆที่สั่งห้ามกินยาก็ล้วนเป็นอันตรายต่อชีวิต
ซึ่งตนมองว่าการดำเนินการแบบนี้ชัดเจนว่ากลุ่มคลื่นพลังบุญไม่คิดแก้ไข ไม่คิดละเลิก ปกปิดข้อเท็จจริง เป็นการหลอกลวง เข้าข่ายฉ้อโกง อยากให้ผู้เสียหายเดินหน้าเรื่องคดีอาญา
หลังจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะออกหมายเรียกกลุ่มคลื่นพลังบุญ มาสอบปากคำ เนื่องจากทราบข้อมูลว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ สร้างสตอรี่ว่ามีนักวิจัยกำลังวิจัยเรื่องคลื่นพลังบุญ อ้างว่าช่วยให้อาการป่วยดีขึ้นได้ โดยคนในกลุ่มมีนักข่าว คนมีคลื่นพลังบุญ นักพูด (น้องหญิง) มีนักวิชาการ คอยแบ่งหน้าที่กันสร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่งตนมองว่าพลังที่ว่าพิสูจน์ไม่ได้
ทิ้งท้าย ทางนายธนกฤตได้ฝากประชาสัมพันธ์ ใครเคยทำการรักษาแบบนี้ให้ไปหาหมอตามปกติ เพราะการรักษาแบบนี้ไม่มีในโลก พร้อมฝากบอกถึงกลุ่มพลังบุญว่าให้เตรียมตัว ติดคุกจริงๆ เอาทั้งแก๊ง ถือว่าพูดแล้วไม่รู้เรื่อง เตรียมตัวให้ดี โดนแน่นอน ทั้งเรื่องการรักษา และพ.ร.บ.คอมฯ
ขณะที่ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยถึงผลเสียของการรักษาที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นเรื่องของความปลอดภัย หากมีคนมาหลอกลวงแอบอ้างเรืองเเบบนี้ ทางสบส. เรารับไม่ได้ โดยเฉพาะการเเอบอ้างเปิดสถานพยาบาลเถื่อน ตั้งตัวเป็นหมอเถื่อน ถือว่าทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ภายหลังการยื่นหนังสือวันนี้ ทาง สบส .ยังได้นำนิติกร 7 คน มาทำการเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาดำเนินคดี
Advertisement