เมื่อเวลา ประมาณ 20:00 น. วันที่ 6 มีนาคม 2568 พนักงานสอบสวนสน. พญาไท เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรับแจ้งเหตุ ชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ภายในชุมชนวัดมักกะสัน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. เจ้าหน้าที่จึงรุจไปยังที่เกิดเหตุ พบนายชาคริต อายุ 22 ปี นอนจมกองเลือด ถูกอาวุธมีดแทง 3 แผล หน้าอก 2 แผลและบริเวณหลังหนึ่งแผล กู้ชีพพระมงกุฏ ได้ทำcpr และนำส่งรพ. บำรุงราษฎร์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุดเวลา 00.07น. วันที่ 7 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังสน.พญาไท ได้พูดคุยกับ นาย อภิวัฒน์ อายุ 25ปี พี่ชาย นาย ชาคริต อายุ 22 ปี ผู้ตาย เล่าว่า พี่ชายของผู้เสียชีวิตได้ไปทวงเงินทางฝั่งผู้ก่อเหตุ ที่ยืมเงืนแม่ไป จำนวนเงิน 3,000 บาท แต่ไม่ได้ จากนั้นช่วงหัวค่ำได้เดินผ่านไปกับน้องชายซึ่งเป็นผู้ตาย เมื่อเดินไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุเห็นว่าผู้ตายพกมีด ฝั่งผู้ก่อเหตุจึงใช้กระบองทำร้ายพี่ชาย ก่อนที่มือแทง จะวิ่งมาแทงน้องชายของตน ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นหลานของคนที่จะไปทวงหนี้ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนีเอามีดฟันแขนตัวเอง เพื่อที่จะให้กู้ภัยไปส่งโรงบาลซึ่งตนเห็นจากกล้องวงจรปิดที่มือถือตำรวจ โดยน้องชายของตนจะพกมีดเป็นประจำเนื่องจากทำงานส่งพัสดุต้องใช้มีดเพื่อตัดสิ่งของ หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวผู้เกี่ยวข้องมายังสน. และตนได้ยินว่าฝั่งตนจะถูกข้อหาบุกรุก ซึ่งตรงนั้นเป็นทางเดิน ตนจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเหมือนรูปคดีจะเข้าข้างฝั่งผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท ได้นำตัว ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 คน 1.นายอนุรักษ์ 2.นายนิพล 3.นายภาณุพงศ์ มาสอบสวนที่สน.พญาไท ก่อนแจ้งข้อหาเบื้องต้นในข้อหา ร่วมกันชุลมุนต่อสู้ ไว้ก่อน
ทั้งที่ทำให้ทางฝั่งญาติผู้ตายไม่พอใจซึ่ง 1 ใน 3 คนที่ถูกแจ้งความชุลมุนต่อสู้ เป็นฝั่งผู้ตายคือ นายภาณุพงศ์ ทางฝั่งญาติก็ได้ตะโกนโวยวายชุลมุนกันอยู่ภายในโรงพัก โดยทางฝั่งญาติผู้ตายยังคาใจว่า ทำไมผู้ก่อเหตุมือแทงที่ถูกมีดบาดนิ้ว ทราบชื่อ นาย สิทธิวิทย์ หรือ อ๋อ ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตั้งนานและยังกลับมายังสน. แต่ฝั่งผู้ตายกลับต้องถูกขังในโรงพักในข้อหาดังกล่าว เนื่องจากฝั่งผู้ตายอยู่สน.กันเยอะ ทำให้ตำรวจต้องกันไว้จึงยังไม่นำตัวมายังสน. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบายเข้าใจก่อนทางญาติจะแยกย้ายกลับ
Advertisement