วันที่ 6 มี.ค. 68 ที่ สภ.ผาขาว จ.เลย นายเชี่ยเว่ยเต๋อ อายุ 34 ปี อยู่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน พร้อมด้วยล่าม และนายธีระพงษ์ ศรีจันทะ ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.พีรวิชญ์ สมีแจ่ม สว.(สอบสวน) ขอดำเนินคดีกับ น.ส.ขวัญธิดา อายุ 25 ปี หลอกให้ผู้เสียหายหลงรัก และจะแต่งงานด้วย สูญเงินไป 9.3 ล้านบาท ต้องบินลัดข้ามทะเลมาแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายเชี่ยเว่ยเต๋อ ผู้เสียหาย เล่าว่า น.ส.ขวัญธิดา ไปทำงานบริการที่ประเทศไต้หวัน โดยผู้เสียหายไปเที่ยว และรู้จักกัน จากนั้น น.ส.ขวัญธิดาขอยืมเงิน หลอกว่าจะอยู่และแต่งงานด้วย บอกว่าบ้านที่อยู่ อ.ผาขาว จ.เลย ขายได้ 1-2 ล้านบาท จะต้องรีโนเวทบ้านใหม่จะขายได้ 8-9 ล้านบาท จึงให้ยืมเงินครั้งละ 100,000-500,000 บาท โดยให้ความหวังว่าจะแต่งงานอยู่ด้วยกัน จากนั้น น.ส.ขวัญธิดากลับมาเมืองไทย ก็ยังติดต่อกันอยู่ขอยืมเงิน ด้วยความหวังจะได้แต่งงานอยู่กินด้วยกัน จึงขายบ้านที่ไต้หวันเป็นเงิน 7 ล้านกว่า และ โอนเงินมาให้ รวม 52 ครั้ง เป็นเงิน 9,300,000 บาท จากนั้น น.ส.ขวัญธิดาพยายามบ่ายเบี่ยงและหลบหน้า
จนมีการส่งรูปในแชตไลน์ว่า ตอนนี้ตนเองมีเงิน 20 ล้านบาท อยู่ในตู้เซฟธนาคาร จะคืนให้ 20 ล้านบาท แต่เอาออกมาไม่ได้ เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียม ด้วยความที่อยากได้เงินคืน จึงโอนไปให้อีก แต่สุดท้ายโดนหลอกจึงตัดสินใจอยากฆ่าตัวตาย แต่ญาติห้ามเอาไว้ วันนี้นั่งเครื่องมาประเทศไทย เพื่อแจ้งความดำเนินคดี
ขณะที่ น.ส.ขวัญธิดา เปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ยอมรับว่าหลอกผู้เสียหายจริง ส่วนเงินใช้ไปกับกิน เที่ยว เล่นหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีจ่ายและยอมรับว่าไม่มีเงินจ่ายจริงๆ ส่วนรูปที่ถือเงินเป็นล้านๆ ก็เอารูปจากที่อื่นมาหลอก
จากนั้นผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของ น.ส.ขวัญธิดา พบบ้านหลังใหญ่บนเนื้อที่ 1 งาน เพิ่งสร้างเสร็จ ตามรูปที่ส่งให้ผู้เสียหายดูว่าเป็นบ้านเรือนหอ พบแม่และพี่ชายอยู่ในบ้าน โดยแม่บอกว่า ไม่ทราบเรื่องที่ลูกสาวไปหลอกเขา และลูกสาวก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง ไม่รู้ว่าลูกสาวทำงานอะไรที่ไหน ส่วนบ้านที่สร้างนั้นลูกสาวก็เป็นคนส่งเงินมาให้ ไม่รู้จริงๆ
Advertisement