จากกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อายุ 43 ปี อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ ภายในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 8 มี.ค. 68 ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบการเสียชีวิตของ ผู้กำกับโจ้ว่า กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ ผู้กำกับโจ้ วันนี้ได้มีหน่วยงาน 4 หน่วยงาน ได้แก่ อัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์ และพนักงานสอบสวน รวมถึงครอบครัวคือ แม่ภรรยาและน้องสาวของผู้กำกับโจ้ ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และดูเรื่องการชันสูตรพลิกศพ
เรายืนยันว่าเราจะให้ความเป็นธรรมในทุกอย่าง ส่วนเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีการฆ่าตัวเอง โดยการผูกคอ เมื่อไปดูสถานที่แขวนคอก็อยากให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าทั้งหมดมีกล้องวงจรปิด ทำให้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนเรื่องการวินิจฉัย ปกติเราจะให้แพทย์ ซึ่งเป็นผู้ทำการชันสูตรพลิกศพมีความเห็น กรณีนี้คงใช้เวลาเร็ว เบื้องต้นทางครอบครัว อยากให้ส่งร่าง ผู้กำกับโจ้ไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งวันนี้มีกองพิสูจน์หลักฐานมาด้วย
ขณะที่ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผลการตรวจสอบในวันนี้จะเห็นได้ว่ามีหน่วยงานภายนอกที่เป็นกลางเข้ามาที่เกิดเหตุทันที ทั้งพนักงานฝ่ายปกครอง กองพิสูจน์หลักฐาน อัยการ รวมถึงแพทย์เข้ามาดูในที่เกิดเหตุ ในส่วนของการตรวจสอบ มีการตั้งคณะกรรมการระดับเรือนจำ และระดับกรมราชทัณฑ์ เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนนี้ เบื้องต้นได้เข้าไปดูทุกส่วนแล้ว ซึ่งกล้องวงจรปิดด้านหน้า รวมถึงในที่เกิดเหตุทั้งหมด จะเร่งรัดตรวจสอบให้เร็วที่สุด ส่วนของญาติต้องการส่งร่างไปชันสูตร เราจะให้ความเป็นธรรมและอำนวยความสะดวกอย่างถึงที่สุด
เมื่อถามว่า เป็นการผูกคอเอง หรือมีคนอื่นเป็นคนผูก กล้องวงจรปิดชี้ชัดหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เบื้องต้นไม่มีใครเข้าไปในห้องขังเลย ซึ่งมีภาพว่าเขาอยู่คนเดียว และพอถึงเวลาจะมีเจ้าหน้าที่ไปให้ยาจากรายงานพบว่าช่วงนั้นน่าจะเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ผู้กำกับโจ้อยู่คนเดียว ซึ่งกล้องจะไม่เห็นภาพภายใน แต่มีภาพด้านหน้าทั้งหมด
ทั้งนี้ในห้องนั้น ผู้กำกับโจ้อยู่คนเดียว ซึ่งปกติห้องขังจะอยู่หลายคน แต่เนื่องจากผู้กำกับโจ้ขออยู่คนเดียว มีการทำบันทึกแจ้งไว้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็อำนวยความสะดวกให้เขาอยู่คนเดียว แต่ห้องข้างๆ ก็มีคนอยู่ 5 คน
ตนอยากจะให้มีการชันสูตรพลิกศพโดยเร็ว เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตเป็นการตายผิดธรรมชาติ คือเป็นการฆ่าตัวตาย รวมถึงการตายระหว่างควบคุมตัว จะต้องให้ศาลทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ และศาลเป็นผู้ชี้ขาด
ด้านนาย สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ และเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตในเรือนจำแม้แต่รายเดียว ที่ผ่านมาก็พยายามหามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
ในประเด็นของผู้กำกับโจ้นั้น เราก็รู้สึกเสียใจ แต่ความจริงก็คือความจริง เราจะให้ความเป็นธรรม ซึ่งตั้งแต่ผู้กำกับโจ้เข้าเรือนนอน จนกระทั่งเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดจับภาพตลอดเวลา ไม่มีผู้ใดที่จะเข้าไปในห้องควบคุมของผู้กำกับโจ้ ซึ่งกล้องวงจรปิดนั้นติดไว้ เพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเรื่องความมั่นคงปลอดภัย ไม่ได้ไปติดในเรือนนอน หรือห้องนอน เพราะเป็นสิทธิมนุษยชนที่เราต้องดูแล แต่ยืนยันว่าไม่มีใครที่จะเข้าไปห้องผู้กำกับโจ้
สำหรับมาตรการสิ่งของต้องห้าม และนำไปสู่การก่อเหตุ เราเข้มงวดอยู่แล้ว แต่เรื่องของผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น เป็นผ้าผืนเล็กๆ เราอนุโลมให้ใช้ผ้าในการซับเหงื่อหรือกรณีที่เกิดเหตุการณ์ร้อนขึ้นมา ซึ่งเราก็อนุโลมให้คนอื่นด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะผู้กำกับโจ้ ที่ผ่านมามีการให้ยาผู้กำกับโจ้ตลอดเวลา และไปรักษาที่โรงพยาบาลตามอาการตลอดเวลา มีการจ่ายยาตลอดเวลา
เมื่อถามว่า เมื่อรู้ว่าเขาเป็นจิตเวชทำไม มีการจ่ายยาตลอดเวลา ทำไมไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยในห้องขัง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ผู้กำกับโจ้เขาป่วย และมีความประสงค์อยู่คนเดียว เพราะเขารู้สึกว่ามีความมั่นใจ และไม่ต้องปะปนกับผู้อื่น รวมถึงเจ้าหน้าที่เวรก็จะมีการเดินตรวจเวรตลอด เวลาที่เกิดเหตุนั้นเกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังเอายาไปให้ทาน ปรากฏว่าเรียกแล้วแต่ไม่มีเสียงตอบรับ พบว่าเงียบ จากนั้นจึงพยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันแล้ว
ที่ผ่านมาผู้กำกับโจ้ยืนยันขออยู่คนเดียว ไม่อยากปะปนกับผู้ต้องขังคนอื่น ซึ่งเราก็มีการดูแลเรื่องของการให้ยาอยู่แล้ว ประเมินแล้วว่าไม่มีเหตุที่เขาจะก่อเหตุแบบนี้ซึ่งลักษณะก็คือเป็นการนั่งผูกความสูงระดับหน้าอก แต่ขาห้อยอยู่กับพื้น
นายเผด็จ หริ่งรอด ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม กล่าวว่า ลักษณะของผู้กำกับโจ้ เป็นการนั่งผูกความสูงระดับหน้าอก แต่ขาห้อยอยู่กับพื้นโดยใช้ผ้าผืนเล็กผูก ทุกอย่างจะต้องมีการตรวจสอบตามกระบวนการวิทยาศาสตร์ทั้งหมดต่อไป ส่วนเรื่องที่มีอาการจิตเวชนั้น ไม่มีใครบอกว่าเป็น มีแต่แพทย์แจ้งว่ามีเรื่องความวิตกกังวลและความเครียด
เมื่อถามว่า มีการกระทบกระทั่งกันกับเพื่อนในเรือนจำหรือไม่ นายเผด็จ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว และมีการดำเนินการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เป็นเรื่องของคำพูด ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งผู้กำกับโจ้อ้างว่าถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย แต่กรรมการสอบเบื้องต้นยังไม่พบข้อเท็จจริงขนาดนั้น จากนั้นเราก็มีการแยกแดนทันทีย้ายจากแดน 7 เดิมมาอยู่แดน 5
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีอะไรที่ซับซ้อน และกระทรวงต้องการความจริงให้ปรากฏ ทั้งนี้ตนได้พบ แม่ น้องสาวและภรรยาผู้กำกับโจ้แล้ว ก็มีความเสียใจ และตนบอกว่าเรื่องนี้จะให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมลงไปดูแล และให้ความยุติธรรมเต็มที่ และเขาต้องการให้นำร่างไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
Advertisement