Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินหน้าสอบกรณี อดีตผกก.โจ้ เสียชีวิต

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินหน้าสอบกรณี อดีตผกก.โจ้ เสียชีวิต

13 มี.ค. 68
16:22 น.
|
75
แชร์

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินหน้าสอบกรณี อดีตผกก.โจ้ เสียชีวิต ยัน ย้ายแดนนอนคนเดียวเพราะเหตุส่วนตัว เผย ก่อนเสียชีวิตญาติมาเยี่ยมคุยนาน 3 ชั่วโมง พบแฟนร้องไห้

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ทางคณะทำงานของ กรมราชทัณฑ์ ได้เริ่มสืบสวนสอบสวนตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีการแยกการทำงานทั้งหมด 2 ชุด

ชุดที่ 1 ทำการตรวจสอบกรณีที่ครอบครัวได้ยื่นเรื่องร้องเรียนมายังกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568

ชุดที่ 2 ทำการตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งจะมี อีก 3 หน่วยงานภายนอกเข้าร่วม คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง

ทาง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้เปิดให้สื่อมวลชนตรวจสอบในทุกประเด็นทั้งข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และพาเข้าไปดูพื้นที่สถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความจริงปรากฏ ซึ่งที่ผ่านมาพบสังคมมีการคาดเดาสถานการณ์ไปในหลากหลายรูปแบบแต่ตัวเองยืนยันว่าอยากให้ความจริงปรากฏ เพราะความจริงก็คือความจริง

ส่วนไทม์ไลน์ในวันเกิดเหตุพบว่าช่วงเช้าวันที่ 7 มีนาคม 2568 อดีตผู้กำกับโจ้อยู่ในแดน 5 คนเดียม ตื่นเช้าได้ออกมาร่วมกิจกรรมของเรือนจำตามปกติ แต่วันนั้นเจ้าตัวมีการเยี่ยมญาติ ซึ่งในวันดังกล่าวทราบว่ามีการใช้เวลากับญาตินานพอสมควรเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงกลับเข้าไปอยู่ในเรือนนอน ซึ่งการพบญาตินานขนาดนี้จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ทางราชทัณฑ์ยืดหยุ่นไม่ได้มีการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

ส่วนในวันดังกล่าวผู้เสียชีวิตจะมีการโวยวายหรือมีท่าทีทะเลาะกับญาติหรือไม่ ขณะนี้เท่าที่ทราบตัวเองได้รับรายงานว่า มี สถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น โดยมีข้อมูลว่า แฟนสาวของอดีตผู้กำกับโจ้เหมือนร้องไห้ แต่ไม่สามารถยืนยันได้และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุกรมราชทัณฑ์มีบันทึกไฟล์เสียงขณะพูดคุยสนทนาแต่ไม่สามารถนำมาเปิดเผยข้อมูลได้เพราะเป็นความลับ กระบวนการสืบสวนสอบสวน

สำหรับกรณีคำสั่งย้าย นายเผด็จ หริ่งรอด กลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลางเมื่อวานที่ผ่านมา สาเหตุมาจากต้องการเปิด ทั้ง 360 องศาให้ตรวจสอบข้อเท็จอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นใจให้สังคมได้รับรู้ว่าไม่ได้มีการปกปิดข้อเท็จจริง ซึ่งตัวของนายเผด็จเองก็เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วน นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม แทน ขณะเดียวกันก็ได้มีการสอบสวนผู้คุมสิทธิพร ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริง และอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชนเนื่องจากขณะนี้พบว่าผู้คุมสิทธิพรไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะมีผู้พยายามเข้าไปสัมภาษณ์สอบถามครอบครัว ส่วนนี้จึงมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

อีกทั้งเกรงว่าหากมีการให้ข้อมูล เกี่ยวกับผลการสอบสวนผู้คุมสิทธิพร ก็อาจส่งผลเสียกับอดีตผู้กำกับโจ้ พร้อมยืนยันว่ามีเอกสารที่จะระบุได้ว่าอดีตผู้กำกับโจ้เป็นผู้ขอย้ายแดนคุมขังเอง และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็พร้อมที่จะนำมาเปิดเผย ส่วนเอกสารที่อดีตผู้กำกับโจ้มีการลงลายมือชื่อยินยอมให้ยุติการสืบสวนกรณีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งการยินยอมดังกล่าวจะมาจากความสมัครใจหรือถูกบังคับนั้นจะต้องมีการตรวจสอบทุกประเด็น

ส่วนประเด็นการผู้คุมใช้คำพูดกดดันนั้น อธิบดีชี้แจงว่าในแดน 7 ขังนักโทษที่มีโทษจำคุก 50 ปีขึ้นไป โดยเรือนจำคลองเปรมมีการคุมขังนักโทษที่มีอัตราโทษสูง ดังนั้นเรื่องระเบียบและข้อกำหนดต้องเข้มงวด ผู้ต้องขังไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้ เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ในการสร้างคนฝึกวินัย พร้อมชวนให้สื่อลองเข้าไปอยู่ในเรือนจำสักพักหนึ่งแล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่างผู้ต้องขังคนหนึ่งอยากจะ จะแสดงศักยภาพอำนาจอิทธิฤทธิ์ ถ้าผู้คุมปล่อยแล้วคนอื่นจะเป็นอย่างไร นักข่าวจึงถามต่อว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่าอดีตผู้กำกับโจ้มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ระบุว่าได้รับเรื่องรายงานมา แต่ไม่อยากไปพาดพิงผู้เสียชีวิต แต่ทางกรมราชทัณฑ์มีข้อมูลในการสอบสวนทั้งหมด

ขณะเดียวกันอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังระบุว่า การคุมขังนักโทษในแดน 7 นั้น มีลักษณะที่เข้มงวด เพื่อควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ต้องขัง ซึ่งกรณีที่มีสื่อมวลชนหรือสังคมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของผู้คุมบางอย่างเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ นักโทษทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบ หากมีนักโทษบางคนต้องการแสดงอิทธิพล หรือฝ่าฝืนระเบียบ ก็ต้องถามกลับว่า ในฐานะผู้คุมต้องทำอย่างไร ซึ่งกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้พบมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และส่วนนี้มีข้อมูลยืนยัน แต่ตัวเองไม่อยากพูดพาดพิงผู้เสียชีวิต

ส่วนประเด็นที่ครอบครัวระบุว่า ผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายนั้นตัวเอง ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกรณีที่ก่อนหน้านี้มีผลแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายด้วยของแข็งไม่มีคมได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครงนั้น ก็เป็นคนละช่วงเวลากับการถูกคุมขังในแดนที่มีนายสิทธิพรดูแล และเชื่อว่าความจริงจะปรากฏเอง ซึ่งการนำอดีตผู้กำกับโจ้มาแยกขังที่แดน 5 ก็เพื่อ เตรียมที่จะดำเนินการสอบสวนประเด็นที่ผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และสาเหตุที่เจ้าตัวขอย้ายมาจากความกังวลส่วนตัว

สำหรับประเด็นที่มีการมองว่าเหตุใดกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพเองได้ ตัวเอง ขอชี้แจงว่าสัญชาตญาณเมื่อเรา ผู้ต้องขังมีลักษณะคล้ายกับกำลังจะทำร้ายตัวเองเสียชีวิตหรือทำร้ายตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว เบื้องต้นผู้คุมจะต้องให้ความช่วยเหลือทันทีจนถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน นายสหการณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีญาติของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเขาบินจังหวัดราชบุรีมายื่นหนังสือร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ตรวจสอบผู้คุม หลังพบพฤติการณ์ ทำร้ายร่างกายผู้ต้องขัง 6 รุม 1 ว่า ในเรือนจำ ถือเป็นพื้นที่ควบคุม เพราะฉะนั้นตามกฏหมายราชทัณฑ์จะจัดระดับการดูแลตามพฤติกรรมของผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำกลางเขาดินถือเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุดที่คุมขัง ผู้ต้องขังคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มีความผิดสร้างความเสียหายร้ายแรง รวมถึงมีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำให้ผู้คุมต้องมีระเบียบที่เข้มงวดกวดขัน สิ่งไหนที่มีกาคฝ่าฝืนระเบียบเจ้าหน้าที่ต้องมีการระงับทันที ซึ่งกรณีนี้ทราบว่าเกิดจากเหตุทะเลาะวิวาท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไประงับเหตุ และตรวจสอบว่าใครคือคนก่อเหตุ ส่วนที่มีการร้องเรียนว่าผู้คุมทำร้ายร่างกายขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ

Advertisement

แชร์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินหน้าสอบกรณี อดีตผกก.โจ้ เสียชีวิต