ความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 มี.ค. ร.ต.อ.สมพล เพียรดี พนักงานสอบสวน สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย
เหตุเกิดบริเวณ ม.3 บ้านฮูแตกอแล ต.เตราะบอน เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ทหารพรานกำลังช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี จำนวน 2 นาย ทราบชื่อ อส.ทพ.สมัย บุญยงค์ อายุ 46 ปี ภูมิลำเนา หมู่ที่ 8 ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ อาการสาหัสจากแรงระเบิด ตามลำตัวถูกสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง แพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บเสียเลือดมากและมีบาดแผลฉกรรจ์กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วน นายฮารง เยะแล อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ หมู่ที่9 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัว แพทย์ได้ช่วยเหลือจนปลอดภัย
ขณะที่ในที่เกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ นาย มะรอมลี มะยะเด็ง อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ถูกแรงระเบิดจนสภาพศพขาดสองท่อน แขนขากระเด็นไปคนละทิศละทาง ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันหาชิ้นส่วนจนครบ และนายอาดิศร ดอเลาะ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 3 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี สภาพศพบริเวณศรีษะถูกสะเก็ดระเบิดอย่างจัง ทำให้ศีรษะหายไปเกือบครึ่ง แขนขาหักทั้งหมด
จากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นศาลาที่พักริมถนน แต่เนื่องจากถูกแรงระเบิดทำให้ศาลาพังเสียหายทั้งหลัง เหลือแต่เพียงหลุมระเบิดขนาดใหญ่ ลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร นอกจากนี้แรงระเบิดทำให้ร้านค้าและบ้านประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงถูกสะเก็ดและแรงระเบิดเสียหาย 2 หลัง ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนระเบิดและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า เมื่อช่วงค่ำวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4411 กรมทหารพรานที่ 44 ปัตตานี จำนวน 10 นาย ขณะกำลังลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบ ปรากฏว่าได้รับแจ้งว่ามีการใช้อาวุธบริเวณจุดเกิดเหตุ จึงรีบให้ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบปลอกกระสุนปืนสงคราม จำนวน 6 ปลอกตกบนถนนห่างจากศาลาดังกล่าวที่เกิดเหตุ ประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดกันพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและเก็บปลอกกระสุนเป็นหลักฐาน ขณะที่กำลังทหารกำลังรออยู่บริเวณศาลาที่พัก โดยมีผู้ตายอีก 3 คนรวมอยู่ด้วย ปรากฏว่าคนร้ายไม่ทราบจำนวนคาดว่าซุ่มอยู่บริเวณที่เกิดเหตุได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 15 กก.ที่ฝังไว้ใต้ศาลาที่พักจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารและผู้ช่วยทั้ง 3 รายถูกแรงระเบิดจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้นำชุดพิสูจน์หลักฐานและชุดสืบสวนสอบสวนเข้าที่เกิดเหตุเพื่อเก็บวัตถุพยานพร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ รวมไปถึงภาพวงจรปิดทุกจุดทุกหน่วยงานที่อยู่ริมถนนและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเหตุครั้งนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนความมั่นคงเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่เคยก่อเหตุหลายครั้งตามข้อมูล ซึ่งก่อนหน้านี้หน่วยความมั่นคงได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วนในพื้นที่ด้วยการลอบโจมตีและวางระเบิด ทำให้หน่วยความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมไปถึงผู้นำท้องที่ในพื้นที่ต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนกระทั่งเกิดเหตุโดยที่คนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องมาฝังไว้ก่อนล่วงหน้าที่จะก่อเหตุ จากนั้นได้ก่อกวนโดยใช้อาวุธปืนยิงเพื่อลวงเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบคนร้ายจึงได้กดชนวนระเบิดทันทีหมายสังหารหมู่เจ้าหน้าที่เพื่อสร้างสถานการณ์
สำหรับความคืบหน้า ขณะที่บรรยากาศพิธีศพของบ้านนายอดิศร ดอเลาะ ผรส.ทีถูกสะเก็ดที่ลำตัวเสียชีวิต ซึ่งบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 100 เมตร โดยเช้านนี้ได้มีบรรดาญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมพิธีฝังศพ และแสดงความเสียใจกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะทำพิธีฝังศพในช่วงเช้า ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับศพของนาย มะรอมลี มะยะเด็ง อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ญาติได้นำร่างทำพิธีทางศาสนาอิสลามเช่นเดียวกัน
นายฟุรกอน ดอเลาะ ลูกชายของนายอดิศร ดอเลาะ ผรส.ที่ถูกระเบิดเสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทราบข่าวว่าพ่อถูกระเบิดประมาน 5 ทุ่มครึ่ง ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก จิตใจย่ำแย่มาก ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวตน
สำหรับพ่อเป็นคนทำอะไรต้องทำให้สุดและจริงจัง พ่อถือว่าเป็นเสาหลัก ดูแลทุกอย่างภายในครอบครัว พ่อจากไปแล้วตนก็ต้องรับหน้าที่ดูแลแม่และน้องต่อ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก
ภูมิใจที่พ่อเสียขีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่อีกใจนึงก็เสียใจมากที่พ่อจากไปเร็วแบบนี้โดยไม่ทันตั้งตัว ส่วนเรื่องของการเยียวยานั้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับรัฐ ส่วนตนก็จะพยายามเข้มแข็งและคงต้องสู้ต่อไป
Advertisement