เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางสาวจิราพ รสินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับกรมศุลกากร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตรวจสินค้าผ่านแดนในตู้สินค้าหมายเลข MRSU3507211 พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 23,400 ชิ้นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 6,000 ชิ้น หัวพอดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 172,000 ชิ้น รวมทั้งหมด 210,300 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 33 ล้านบาท
อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ.2560 เป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิช เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามา ในราชอาณาจักรพ.ศ.2557 และประกาศกรมศุลกากรที่185/2564 เรื่องพิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ 6
ทั้งนี้ของกลางที่ยึดได้ดังกล่าว กรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดเพื่อดำเนินคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ และผู้สนับสนุนภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจนต่อไป
Advertisement