วันที่ 11 มี.ค. 68 เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา บรรยากาศที่ ศาลาจิรวัสส์ รัชนิบูล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของพันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ หลังจากเสียชีวิตภายในเรือนจำกลางคลองเปรมเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศตลอดทั้งวัน มีรถจักรยานยนต์รับจ้างนำพวงหรีดเป็นจำนวนมาก มามอบให้กับครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้ เพื่อแสดงความเสียใจ
โดยมีพวงหรีดของ คุณเมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร อดีตแฟนสาว ,เพื่อนนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 41 เหล่า ทบ. ,พลตำรวจตรีระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และภรรยา,พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,พันตำรวจเอก อัครพล โทยะ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ,พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน และพันตำรวจเอก พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้สังเกตเห็นมีพวงหรีดของนายเผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเป็นบุคคลที่น้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ ยื่นหนังสือร้องเรียนให้มีการย้ายออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ระหว่างสอบสวนเมื่อวานนี้ด้วย
ขณะที่ “แม่ของผู้กำกับโจ้” ได้เดินทางมาที่วัดศรีมหาธาตุบางเขน ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ แม่ยังไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า “คุณแม่อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายหรือไม่” ซึ่งคุณแม่บอกว่า “ขอไม่พูด ให้คนอื่นตอบแทน” ส่วนประเด็นที่ผู้กำกับโจ้ได้มอบอำนาจให้กับนายอัจฉริยะ มาดูแลเรื่องคดีเกี่ยวกับรถทั้งหมด 13 คัน ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในข้อหาลักทรัพย์รถยนต์ คุณแม่บอกว่าไม่ทราบเรื่องนี้
โดยในคืนนี้ทางครอบครัวทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางสาวธนัญญา อุทธนผล หรือ จูน น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดใจว่าในส่วนที่ตำรวจและราชทัณฑ์ออกมาบอกว่าได้ให้ญาติดูภาพจากกล้องวงจรปิดตัวเต็มแล้วนั้น ไม่ถือว่าเป็นความจริง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ญาติและครอบครัวก็ได้ดูแค่ภาพวงจรปิดเป็นบางช่วงเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่ายังมีข้อเคลือบแคลงใจอยู่ แต่ในวันนี้อยากจะทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้พี่ชาย และยืนยันว่าจะขอเก็บร่างพี่ชายจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ตนแทบไม่ได้ติดตามข่าวว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง ยังรู้สึกเหนื่อย และมึนงงแทบทุกวัน
ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปยื่นหนังสือเอาผิดกับ พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ป.ป.ง. ที่มีการยักยอกรถยนต์หรูจำนวน 13 คันไปขาย และอ้างว่าได้รับการมอบอำนาจจากครอบครัวผู้กำกับโจ้นั้น นางสาวจูน บอกว่า ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
อีกทั้งนางสาวจูน ยังได้ออกมาปฏิเสธ นายอัจฉริยะอีกว่า วันสุดท้ายก่อนที่ผู้กำกับโจ้เสียชีวิตนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะคนที่ไปเยี่ยมวันสุดท้าย คือแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ ไม่ใช่ตน.
Advertisement