"กัน จอมพลัง" ลุยติดตามคดี สาวถูกแฟนหนุ่มบีบคอจนสลบ ก่อนโยนลงจากชั้น 5

"กัน จอมพลัง" พา พ่อแม่สาววัย 21 ปี ติดตามความคืบหน้าคดี ถูกแฟนหนุ่มบีบคอจนสลบ ก่อนโยนลงจากหอพักชั้น 5 พยานเล่านาทีเข้าห้ามแต่ไร้ผล

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา พ่อกับแม่ติดต่อขอให้ช่วย หลัง น.ส.เอ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 21 ปี ถูกแฟนหนุ่มที่คบกันได้ 6 เดือนบีบคอจนสลบแล้วอุ้มร่างน้องขึ้นไปชั้น 5 แล้วโยนน้องลงมาขาหัก 3 ท่อน ซี่โครงหัก 3 ซี่โครงทิ่มปอดอาการโคม่า พยานเห็นพยายามห้ามแล้วแต่ผู้ชายไม่ฟัง ผู้ชายกระโดดตามลงมาด้วย ภาพคลิปชัดเจน มาติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สน.มีนบุรี

โดย กัน จอมพลัง เล่าว่า พ่อกับแม่ของ น.ส.เอ (นามสมมติ) ร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมหลังลูกสาวอายุ 21 ปี ถูกผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นแฟนมีอาการหึงหวง และทราบว่ามีทอมคนหนึ่งพูดคุยกับลูกสาวทางแชต ทำนองชู้สาวทำให้ฝ่ายชายออกอาการหึงหวงมาก และได้ออกอุบายแชตเรียกทอมให้มาหาที่หอพักและให้รอที่บันได พอมาถึงก็ทำร้ายร่างกายโดยบีบคอทอมทันที แต่ทอมหนีลงมาข้างล่าง

จากนั้นฝ่ายชายก็มาบีบคอตัวฝ่ายหญิงจนสลบ โดยจากภาพกล้องวงจรปิด ฝ่ายชายจะอุ้มตัวผู้หญิงขึ้นบ่าออกมาจากห้อง ก่อนจะขึ้นไปชั้น 5 แล้วโยนผู้หญิงลงมาจากชั้นห้าทำให้สภาพหลังจากหล่นลงจากชั้นห้าของหอพักร่างกายผิดรูป ส่วนตัวผู้ชายก็กระโดดตามลงมาซึ่งพบว่าทางผู้ชายเป็นหนักกว่า ตอนนี้ไม่สามารถตอบโต้ได้ ส่วนผู้หญิงสามารถตอบโต้ได้แล้ว

โดยจังหวะที่ถูกโยนออกมาจุดหล่นจะมีกำแพงที่มีแก้วอยู่ด้านบนกำแพงบ้านที่ติดกับหอพัก แต่โชคดีร่างน้องเลยไปจากกำแพง และนอกจากนี้ก่อนหน้านี้น้องก็เคยถูกทำร้ายร่างกายและน้องก็ขอเลิก แต่ฝ่ายชายก็กลับมาง้อแล้วก็กลับไปอยู่ด้วยกันอีก สุดท้ายก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยตอนนี้ทางครอบครัวเป็นห่วงว่าคดีความจะเงียบ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากตัวเองให้ประสานกับผู้กำกับ สน.มีนบุรี

หลังจากนี้จะลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีพยานที่เห็นเหตุการณ์และพยายามที่จะห้ามฝ่ายชายแล้วแต่ก็ไม่ฟัง ยืนยันว่า แม้เป็นเรื่องชู้สาวก็ไม่สามารถจะโยนใครลงมาจากชั้น 5 ได้ เพราะหลังก่อเหตุไปแบบนั้นมันส่งผลกระทบโดยตรงกับทุกฝ่าย หมดอนาคต ครั้งนี้เป็นเคสแรกที่ตัวเองเจอยอมรับว่าโหดมาก

ด้าน แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า ลูกสาวคบกับฝ่ายชายที่ก่อเหตุได้ 6 เดือนแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเล่าให้ฟังว่าคบกับผู้ชายคนนี้ ซึ่งตัวเองก็มารู้ตอนเกิดเหตุ จากข้อมูลทราบว่าลูกสาวเราถูกบีบคอและผู้ชายแบกใส่บ่า และจากการดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด หลังน้องร่วงลงมาก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นเพื่อนของลูกสาวก็โทรแจ้งตัวเอง ยอมรับว่ายังรู้สึกกังวลว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย โดยส่วนตัวคิดว่าผู้ชายไม่สมควรที่จะทำพฤติกรรมแบบนี้ และเบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับครอบครัวฝ่ายชาย

ด้าน พ่อของผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตัวเองแยกทางกับคุณแม่ตั้งแต่ลูกสาวยังเด็ก โดยลูกสาวอาศัยอยู่กับตัวเอง แต่เมื่อลูกอายุ 20 ปีลูกสาวก็ออกมาทำงานข้างนอก ซึ่งปัญหาส่วนตัวลูกสาวจะไม่ค่อยเล่าให้ฟังถ้าไม่หนักจริงๆ ส่วนเรื่องแฟนหนุ่มตัวเองก็เคยบอกลูกสาวว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้รีบบอกพ่อ แต่การคบหาผู้ชายคนนี้ยืนยันว่าตัวเองไม่รู้ เพราะน้องไม่ได้บอกว่ามีแฟน ทำให้ตัวเองไม่เคยเจอกับผู้ชายคนดังกล่าว

ส่วนหอพักที่เกิดเหตุทราบว่าลูกสาวเป็นคนเช่าเองและคาดว่าผู้ชายน่าจะมาอาศัยอยู่ด้วยหลังจากคบหากัน แต่เขาก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง ซึ่งตัวเองก็ย้ำตลอดว่าถ้ามีแฟนแล้ว ถูกแฟนทำร้ายให้โทรบอกพ่อ เพราะเมื่อก่อนเค้าก็เคยมีแฟนแล้วถูกทำร้ายเขาก็เคยบอก

โดยหลังเกิดเหตุก็มีเพื่อนของลูกสาวมาเล่าให้ฟังสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตอนแรกตัวเองคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ฝ่ายชายทำเกินไป ส่วนอาการตอนนี้ลูกสาวก็ยังแย่อยู่ แต่ก็ยังสื่อสารได้อยู่ ส่วนตัวเสียใจมากเพราะสงสารลูกกลัวเขาจะเจ็บ และกลัวว่าร่างกายลูกสาวจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ขณะที่ พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี เผยว่า สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ในช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุก็เห็นฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ที่พื้นแล้ว จากการสอบถามพยานเพื่อนข้างห้องที่อาศัยกับน้องให้การว่าได้ยินเสียงทะเลาะกันก่อนเกิดเหตุ โดยฝ่ายชายพาผู้หญิงออกจากห้องแล้วตัวเองก็เดินตามออกมา ก็เห็นผู้ก่อเหตุอุ้มน้องจากชั้นสี่ขึ้นไปดาดฟ้า ซึ่งเขาก็วิ่งตามและพยายามส่งเสียงห้าม จากนั้นเขาก็อุ้มน้องไปไว้กำแพง สุดท้ายผู้ก่อเหตุก็ผลักน้องลงมาจากชั้นห้าแล้วผู้ชายก็กระโดดตาม

ส่วนทอมรู้จักกับผู้ได้รับบาดเจ็บได้ประมาณหนึ่งเดือน จากการสอบถามทราบว่าฝ่ายหญิงเลิกกับฝ่ายชายแล้วจึงได้ลองคบหากัน

ส่วนทางคดีความสอบปากคำไปแล้วทั้งหมดสองคน ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์และพยายามช่วย ซึ่งคดีนี้รับเป็นคดีอาญาแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และพยายามฆ่า ยืนยันให้ความมั่นใจกับสื่อมวลชนเราจะดำเนินการเต็มที่

ล่าสุดพนักงานสอบสวนสอบปากคำน้องผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว สามารถให้การได้เบื้องต้น ส่วนผู้ก่อเหตุยังอยู่ในห้องไอซียูไม่สามารถให้การได้จึงยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งถ้าเขาออกจากห้องไอซียูและรู้สึกตัว พนักงานสอบสวนจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมได้ทันที

นอกจากนี้ได้ติดต่อผู้ปกครองของฝ่ายชาย ทราบว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่ที่ต่างจังหวัด ตอนนี้กำลังเดินทางมา ตรวจประวัติไม่พบประวัติการใช้ยาเสพติด ส่วนอาการฝ่ายชายอยู่ในขั้นวิกฤตแพทย์เตรียมส่งตัวผ่าตัดอีกรอบด้วย

ส่วนผู้ปกครองของน้องผู้ได้รับบาดเจ็บได้ประสานให้ยื่นเรื่องขอรับค่าเยียวยาของกระทรวงยุติธรรม