ผู้เสียหาย ลั่นเอาผิด สาวใหญ่คลั่งขับฟอร์จูนเนอร์ ไล่ชนคนถึงที่สุด
ผู้เสียหาย ลั่นเอาผิด สาวใหญ่คลั่งขับฟอร์จูนเนอร์ ไล่ชนคนถึงที่สุด ไม่ขอเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ขอให้เพิกถอนขับขี่ ชี้พฤติกรรมเป็นอันตรายต่อสังคม
จากกรณีเกิดเหตุระทึกเมื่อเย็นวานนี้ ภายในซอยบ้านกล้วยไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบคนขับรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 50 ปี อาชีพพยาบาล ไล่ชนรถ และคนที่ขวางกลางถนน โดยเหตุการณ์ยาวนานเกือบ 1 ชั่วโมง แม้กระทั่งตำรวจพยายามเข้าระงับเหตุ คนขับยังไม่ยอมหยุด ไล่ชน จนสุดท้ายต้องใช้ปืนยิงข่มขู่ เพื่อสกัดและระงับเหตุ โดยเหตุการณ์ค่อนข้างชุลมุน เนื่องจากผู้เสียหาย รวมถึงประชาชนในพื้นที่พยายามช่วยกันจับตัวคนขับรถคันดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันนี้ (14 มี.ค. 68) ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าภายในซอยดังกล่าวเป็นถนนเลนสวน 2 เลน ในช่วงเช้า รถฝั่งขาออกจากซอยจะติดเป็นทางยาว ส่วนในช่วงเย็นหลังเลิกงานขาเข้า การจราจรค่อนข้างติดขัด ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ น.ส.อริษา สิงห์ทอง อายุ 33 ปี ซึ่งพี่สาวของผู้เสียหายรายแรก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่หญิงคนขับรถคันดังกล่าวจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุดังกล่าวขึ้น บอกว่า หลังจากทราบเรื่องก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ และพยายามที่จะพูดคุยกับ หญิงคนขับรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ แต่คู่กรณีกลับไม่ยอม ขับรถไล่ชน จนตนเองต้องถ่ายคลิป วิดีโอเอาไว้ และในระหว่างที่พยายามจะควบคุมสถานการณ์ คนขับไม่ยอมเปิดกระจกด่าทอทุกคนที่เข้ามาขวางด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับบนรถเป็นวงกลม ไล่ชนทุกคนที่เข้ามาขวาง จนครอบครัวของตนที่เดินทางมาด้วย เกือบถูกถอยรถชนอยู่หลายครั้ง ทำให้ตนเองรู้สึกโมโห
อย่างไรก็ตามตนเองยอมรับว่าตนเองก็ใช้ถ้อยคำด่ากลับไปเช่นเดียวกัน เพราะตอนนั้นเป็นห่วงครอบครัวของตัวเองมากที่ถูกไล่ชน จนกระทั่งตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ แต่คนขับก็ยังไม่ยอม สุดท้ายแล้วตำรวจจึงใช้ปืนยิง ลงพื้น เพื่อที่จะพูดคุยระงับเหตุในครั้งนี้ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อพูดคุยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางคู่กรณี แต่ตนเองถูกด่าสารพัดจนทนไม่ไหว มีการปะทะอารมณ์กัน ตำรวจจึงจัดแยกแล้วนำตัวของคู่กรณีไปคุยอีกห้อง จึงเดินทางกลับมา
โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งการดำเนินคดีของตน ไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ต้องการให้เอาผิด จนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ เพราะมองว่าพฤติกรรมของคู่กรณีเป็นภัยกับสังคม และควรใช้รถใช้ถนน
และหลังจากที่คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปโพสต์ลงในโซเชียลก็มีผู้คน วิพากษ์วิจารณ์ว่า ต้นเหตุของเรื่องที่ทำให้คนขับเฟอร์จูนเนอร์เกิดอาการคลุ้มคลั่ง มาจากที่ตนยั่วยุ ซึ่งตนยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือตัวเองและครอบครัวถูกกระทำก่อน จนทนไม่ไหว กลายเป็นภาพที่ปรากฏออกมาตามสื่อ
Advertisement
