ดร. ตฤณฑ์ ย้ำ คดีแตงโม ไม่ซับซ้อน แต่ติดกระดุมเม็ดแรกผิด
ดร. ตฤณฑ์ ย้ำคดีแตงโม ไม่ซับซ้อน แต่ติดกระดุมเม็ดแรกผิด เผยพรุ่งนี้ FBI เตรียมพบดีเอสไอ ให้คำปรึกษาแนวทางของคดี เชื่อมีอำนาจมืดให้ทำงานยาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร ให้สัมภาษณ์ในงาน ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1/ 68 ทวงความยุติธรรมให้ประเทศไทย ในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ว่า ไม่ได้มีความซับซ้อน แต่ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก จึงทำให้พยานหลักฐานหรือข้อมูลที่ควรจะได้ตั้งแต่แรกกลับไม่ได้ จึงกลายเป็นภาระการทำงานของดีเอสไอหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตนเองที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของคดี ในฐานะเป็นที่ปรึกษาดีเอสไอ แต่ขณะนี้ตนเองได้ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ด้านการสืบสวนสอบสวน รวมแล้วกว่า 6 ประเทศ
สำหรับในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษ ที่มีอำนาจในการติดตามและจับกุมทั่วประเทศอเมริกา หรือ FBI จะเข้าพบดีเอสไอ เพื่อให้คำปรึกษาแนวทางของคดี และช่วยคลี่คลายในการทำคดีนี้ด้วย
ทั้งนี้มองว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำอยู่แล้ว เนื่องจากมีข้อพิรุธหลายเรื่อง เพราะคดีเกิดขึ้นมากว่า 3 ปีแล้ว ข้อเท็จจริงหลาย ๆ เรื่องก็ไม่ควรซับซ้อนอยู่แบบนี้ ควรได้รับคำตอบ ซึ่งคนที่กระทำผิดก็ควรได้รับผิด ส่วนข้อสงสัยที่ประชาชนสงสัย ก็ควรได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการเช่นกัน และการทำคดีในช่วงนี้ต้องเริ่มตั้งต้นใหม่จากศูนย์ ไม่สามารถนำข้อมูลที่เคยทำแล้วมาต่อยอดได้ เนื่องจากมีสงสัยถึงข้อพิรุธในการทำคดีตั้งแต่แรก ทั้งนี้ต้องดูว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับเจ้าหน้าที่ชุดแรก มีความไม่โปร่งใสในการดำเนินคดีหรือไม่ ?
เมื่อถามถึงการสอบพยานที่เข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอมีความผิดปกติส่วนไหนหรือไม่ ดร.ตฤณห์ มองว่า มีทั้งปกติและไม่ปกติ แต่ความปกติมากกว่า
เมื่อถามย้ำว่าไม่ปกติ คืออะไรนั้น ดร.ตฤณห์ ระบุว่า ตนขอยกตัวอย่างเช่น การพูดที่ไม่จริง ซึ่งหน่วยงานที่สอบสวนต้องใช้การวิเคราะห์ถึงคำพูดทั้งหมด ซึ่งตนเองจึงได้ให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญทางภาษากาย ทำการถอดรหัสร่างกาย ว่ามีความสอดคล้องกับการให้การหรือไม่ ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะได้รับคำตอบ และต้องรอฟังจากการแถลงทั้งหมดอีกไม่นาน
คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อน แต่มีพลังงานบางอย่างที่ทำให้ซับซ้อน เวลาที่ทิ้งห่างขนาดนี้ทำให้การรวบรวมพยานหลักฐาน หายไปบางส่วน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากกว่าเดิม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ
เมื่อถามย้ำว่าที่ว่าคืออะไร ดร.ตฤณห์ ระบุว่า เรื่องการใช้อำนาจมืด ใช้พลังงานภายใน เส้นสายและการรู้จักผู้ใหญ่ รวมถึงการคอรัปชั่นทุกอย่างมีครบ
เมื่อถามว่าตั้งแต่ที่เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งในการทำคดีนี้ เคยถูกข่มขู่บ้างหรือไม่ ดร.ตฤณห์ กล่าวว่า มีการข่มขู่แบบอ้อม ๆ โดยบอกว่า “อย่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” แต่ไม่มีใครสามารถทำอะไรตนเองได้ เพราะตนเองไม่กลัว ในฐานะที่ตนเองมาเป็นที่ปรึกษาดีเอสไอ เรื่องที่ถูกต้องตนเองจำเป็นจะต้องทำ ไม่กลัวที่จะยืนคนเดียว หากยืนในที่ที่ถูกต้อง เพราะตนเองเห็นความไม่จริงไม่เที่ยงธรรม มาตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตนเองรู้ดีว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยเป็นอย่างไร ตนเองออกมาพูดในหลักฐานที่เป็นวิชาการ มันมีแค่จริงหรือไม่จริง ซึ่งความเป็นวิทยาศาสตร์ มีความชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ตนเองมองว่าในการทำงานต้องสร้างความกลัวให้กับผู้ที่กระทำความผิด.
Advertisement
