คดีแรกเป็นของ บก.สอท.1 ที่เข้าจับกุมนางสาวอาภรณ์อายุ 36 ปี ได้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังมีผู้เสียหายมาแจ้งความว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการค้นหาแหล่งกู้เงินผ่านทางออนไลน์ ไม่มีการสมัครทำสัญญากู้ยืมเงินแต่ต้องโอนเงินเพื่อสมัครค่าสมาชิกก่อน กูจะหายก็โอนเงินไปหลายครั้งรวมแล้วมากกว่า 80,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงิน และไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนอีกคดีของ บก.สอท. 1 คือการจับกุมนายสุนันท์ อายุ 32 ปี หลังไปหลอกผู้เสียหายให้มีการลงทุนในแพลตฟอร์มต่างประเทศโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูง ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 370,000 บาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า มีเพื่อนที่รู้จักกันมาชักชวน อ้างว่าเป็นงานง่ายๆได้เงินเร็ว เพียงแค่เปิดบัญชีออนไลน์แล้วจะได้ค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท ก็เลยไปเปิดบัญชีให้ 9 บัญชี หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าจะถูกเอาบัญชีไปหลอกลวงคนอื่น
ด้าน บก.สอท.3 ผลการจับกุมเครือข่ายหลอกลงทุนทำธุรกิจในแอปพลิเคชั่นสีส้ม (ช็อปปี้) โดยนางสาว นาตถยา อายุ 23 ปี ได้หลอกลวงผู้เสียหายด้วยการส่งลิงค์ผ่านทางข้อความชักชวนให้มาร่วมลงทุนและจะได้ส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นภายใน 10 นาที เพียงแค่ทำภารกิจกดรูปหัวใจแล้วเข้าไปสั่งสินค้า ช่วงแรกผู้เสียหายสามารถถอนเงินได้จริง แต่เมื่อเริ่มลงทุนและจำนวนเงินที่มากขึ้นก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 410,000 บาท
นอกจากนี้ บก.สอท. 5 มีผลงานการจับกุมเครือข่ายเว็บพนัน henghengshot789 จากการสืบสวนพบว่าเว็บนี้มีเงินหมุนเวียนในระบบประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน และพบว่าผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่การทำเป็น 3 กลุ่ม คือ แอดมิน, กลุ่มจัดหาบัญชีม้า, กลุ่มผู้ถอนเงิน เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายได้แล้ว 2 คน คือนายพีรณัฐ อายุ 34 ปี และนายอภิชาติ อายุ 49 ปี
นายพีรณัฐ ยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนเองทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคารของบุคคลต่างด้าวให้กับเครือข่ายเว็บพนันเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บริหารของเว็บ ส่วนนายอภิชาติ ยอมรับว่าตนทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้าได้ค่าตอบแทนบัญชีละ 3,000 บาท
บก.สอท. 3 ยังคงกวาดล้างทลายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ก็มีการจับกุมนางสาวสุดฤทัยอายุ 35 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้า แอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่น่าตกใจคือ ร้านตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาเพียงแค่ 400 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านางสาวสุดฤทัย เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อปี 2567 มาก่อนแล้ว พร้อมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 59 ชิ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ทางตำรวจได้ขยายผลไปจับกุมนายณัฐภูมิ อายุ 20 ปี ซึ่งผู้ต้องหาคนนี้ได้มีการซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากนางสาวสุดฤทัยไปขายต่อให้คนอื่น เบื้องต้นได้ตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 8 ชิ้น
Advertisement