สาวแฉ! อดีตแฟนหนุ่ม “รองผู้กำกับฯ” เสพไอซ์เล่นพนันออนไลน์
สาวแฉ! อดีตแฟนหนุ่ม เป็นถึง รอง ผกก. สมุทรปราการ เสพไอซ์ ติดยา-การพนัน-ดื่มเบียร์ในเวลาราชการ ซ้ำยังถูกหลอกเงินครึ่งล้าน นำบัญชีไปกู้เงิน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่สำนักงานกฎหมายนิติโชติวนิชย์ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี นางสาวฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ นำหลักฐานเอกสารและอุปกรณ์เสพยาไอซ์ของอดีตแฟนหนุ่ม คบกันเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับการ (สอบสวน) ในพื้นที่สมุทรปราการ เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากนายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ “ทนายกบ” หลังจากแจ้งความดำเนินคดีและร้องเรียนเรื่องวินัย กับสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีคลิปหลักฐานขณะเสพยาไอซ์ เล่นพนันออนไลน์ และดื่มเบียร์ในเวลาราชการ นอกจากนี้ อดีตแฟนหนุ่มยังแอบถอนเงินจากบัญชีและยืมเงินไปกว่า 500,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นางสาวฟ้า เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และได้รู้จักพันตำรวจโท คนดังกล่าวเมื่อเดือนมกราคม 2565 ขณะนั้นเขามีตำแหน่งเป็นสารวัตร โดยเขาเข้าพักที่โรงแรมบ่อยครั้ง ทำให้มีโอกาสพูดคุยกัน ต่อมาตนได้รับใบสั่งจราจรและขอให้เขาช่วยไปจ่ายค่าปรับให้ จากนั้นจึงแลกไลน์และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคู่รัก
ในช่วงแรกของการคบหา เขาทำงานปกติและมีท่าทีเป็นคนดี ตนจึงใช้ชีวิตร่วมกับเขาเหมือนสามีภรรยาทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้กระเป๋าตังค์เดียวกัน โดยเขามานอนที่บ้านตนทุกวัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2565 พฤติกรรมของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาขอยืมโทรศัพท์ของตนโดยอ้างว่าจะนำไปเล่นเกม และมักขอหยิบยืมเงินอยู่บ่อยครั้ง โดยอ้างว่าจะคืนเมื่อถึงสิ้นเดือน แต่กลับไม่เคยคืน นอกจากนี้ ตนยังพบว่ามีเจ้าหนี้โทรศัพท์มาตามทวงเงินเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขามักบอกว่าต้องใช้เงินในการทำคดีหรือจ่ายค่าเข้าเวร กระทั่งตนทราบว่าเขาติดการพนันออนไลน์
หลังจากทราบว่าเขาติดพนัน ตนพยายามตักเตือนแต่เขาไม่ฟัง ต่อมาในเดือนมกราคม 2566 พฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไปมากขึ้น เขานอนดึก เล่นโทรศัพท์และโน้ตบุ๊กตลอดเวลา จนตนพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ในครอบครองของเขา ตนจึงแอบถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน เมื่อเขารู้ว่าตนล่วงรู้เรื่องนี้ เขาพาตนไปโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่เขานัดรับยาเสพติด และจงใจวางอุปกรณ์เสพยาให้ตนเห็น คาดว่าเขาต้องการให้ตนยอมรับพฤติกรรมของเขา
ต่อมา เขาเริ่มเสพยาไอซ์ที่ห้องพักของตนเอง ซึ่งทำให้ตนรับไม่ได้และขอเลิกราในเดือนธันวาคม 2566 ระหว่างที่คบกัน ตนพยายามเตือนและช่วยเหลือเขาหลายครั้ง แต่เขากลับไม่หยุดพฤติกรรมเดิม จนตนต้องหนีไปนอนบ้านเพื่อนในวันที่เขาหยุดงาน เพราะรู้สึกอึดอัดและกลัวพฤติกรรมของเขา
หลังเลิกรากัน เขานำโทรศัพท์และรถเก๋งที่ยืมไปคืนให้ ตนก็ไม่ได้ตรวจเช็คอะไร จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน วันที่ 29 ธ.ค.66 ตนมีเหตุต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง จึงไปเปิดโทรศัพท์ เพื่อจะเอาเงินออกมาสำรองในการใช้จ่ายในครั้งนี้ เมื่อตนตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่ามีหน้าต่างเว็บพนันค้างอยู่ ปรากฏว่าเงินในบัญชีหายหมด และพบว่าเขาได้โอนเงินจากบัญชีของตนไปยังบัญชีของเขาจนหมด รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท ตนจึงเดินทางไปธนาคารเพื่อตรวจสอบ สเตทเม้นท์ กลับพบว่า เขายังเปลี่ยนอีเมลเพื่อรับรหัส OTP แล้วใช้บัญชีของตนไปกู้สินเชื่อธนาคารอีก 20,000 บาท ทั้งที่ตนไม่เคยให้รหัสผ่านแอปธนาคารแก่เขา หลังจากทราบเรื่ิงจึงเดินทางกลับมาบ้านตรวจสอบเงินสดของแม่ที่เก็บไว้ในลิ้นชักที่บ้านประมาณ 7,000 บาท ได้หายไป รวมความเสียหายทั้งหมดแล้ว ตนถูกอดีตแฟนหนุ่มหลอกยืมเงินไปกว่า 500,000 บาท
ตนแจ้งความตั้งแต่ปี 2567 แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า แม้จะมีหลักฐานว่าเขาโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต เล่นเว็บพนันออนไลน์ เสพยาเสพติด และดื่มเบียร์ในเวลาราชการ ที่น่าตกใจคือ คณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยกลับลงโทษเพียง “ภาคทัณฑ์” และมีหนังสือแจ้งตน โดยอ้างว่าเขาเข้าเว็บพนันเพื่อประโยชน์ทางราชการ และที่นำเงินของตนไปเพราะต้องรักษาอาการป่วย
ตนจึงมาขอความเป็นธรรมจากทนายกบและสื่อมวลชน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเขารู้ที่อยู่ของตน และก่อนหน้านี้เคยข่มขู่ว่า “เตรียมคนเก็บกู้ระเบิดไว้เลย…อยู่ไหนจะตามไประเบิดถึงที่ เมื่อไปถึงไม่ว่าจะเจอใคร ผมบอกก่อนนะว่ามีแค่พี่น้องคุณที่ผมเกรงใจ” ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยให้ตำรวจที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และอยากให้เขามารับผิดชอบและนำเงินมาคืน
ด้านนายณธัชพงศ์ หรือ “ทนายกบ” กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนว่า ผู้เสียหายถูกอดีตแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นตำรวจนายหนึ่ง โอนเงินจากแอปธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตหลายครั้ง มีพฤติกรรมเล่นพนันออนไลน์ เสพยาเสพติด และเปลี่ยนอีเมลเพื่อกู้เงินจากธนาคาร
ตนได้รับการร้องเรียนมาแล้วถึง 2 ครั้ง และอยู่ระหว่างส่งฟ้องคดี ซึ่งคดีนี้ใช้เวลานานผิดปกติ ทั้งที่ตำรวจรายนี้เป็นถึงพนักงานสอบสวน จากหลักฐาน พบว่ามีการโอนเงินเข้าสู่เว็บพนันจริง แต่คณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลับระบุว่าไม่มีพยานหลักฐาน
จากการตรวจสอบ ตนเห็นว่ามีหลายขั้นตอนที่ผิดพลาดในการสืบสวน ขณะที่พยานหลักฐานระบุชัดเจนว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมเล่นพนันและเสพยาเสพติด ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 หลังจากที่ตนได้รับเรื่องร้องเรียน ตนได้ติดตามคดีแต่ได้รับข้อมูลว่า มีเพียงภาพ ไม่มีคลิปหลักฐาน จึงต้องสอบสวนใหม่ ซึ่งผู้เสียหายกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทนายกบ ยืนยันว่า ตำรวจรายนี้ควรถูกตรวจปัสสาวะ หากพบว่าเสพยาเสพติดจริง ควรเข้าสู่กระบวนการบำบัด และไม่ควรให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานในอนาคต ตนจะติดตามผลการสอบสวนเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้เสียหายต่อไป
Advertisement
