ตำรวจ เร่งประชุมไล่ล่า โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 160 บาท จ.อยุธยา
ผู้บัญชาการภาค 1 เร่งประชุมไล่ล่า โจรบุกเดี่ยวร้านทองภายในห้างบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ชิงทองรูปพรรณไป 160 บาท
จากกรณีที่คนร้ายบุกเดี่ยวเดินเท้าเข้าชิงทองภายในห้างที่บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลบหนีไปได้พร้อมกับ ทองรูปพรรณ ขนาดน้ำหนักเส้นละ 10 บาท 15 บาท และ 20 บาท รวมน้ำหนักประมาณ 160 บาท แล้วเดินทางออกจากจุดเกิดเหตุ ร้านทอง นั่งวินมอเตอร์ไซค์หลบหนีมุ่งหน้าสายเอเชียขึ้นเหนือไป จอดลงริมถนนสายเอเชียช่วงหลักกิโลเมตรที่ 3 ก่อนถึงด่านเก็บเงินเก่าบางปะอินหลบหนีแย่างไร้วี่แวว ไร้กล้องวงจรปิด เชื่อว่าคนร้ายจะมีการวางแผนหลบหนีกล้องได้เป็นอย่างดี จึงไม่ใช้ยานพาหนะ ใช้วิธีเดินเท้าว่าจ้างมอเตอร์ไซค์ไปจอดส่งไว้ริมถนนสายเอเชีย ริมถนนจุดสุดท้ายที่พยานปากสำคัญ มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาไปส่ง เป็นป่ารกป่าธูปขนาดใหญ่สามารถเดินเท้าหลบหนีไปได้หลายทาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบจุดที่คนร้ายหลบหนีไปครั้งสุดท้ายริมถนนสายเอเชีย กม.3 จุดบริเวณนี้เป็นป่ารกมีช่องทางออกหลบหนีหลายช่องทาง เชื่อว่าคนร้ายมีความชำนาญด้านยุทธวิธีด้วย จึงวางแผนหลบหนีอย่างแยบยล ผู้สื่อข่าวไปพบถุงมือสีน้ำเงินทิ้งไว้ 1 คู่
จากการสอบถามตำรวจชุดไล่กล้องรับว่า จุดสุดท้ายที่คนร้ายหลบหนียังไม่รู้ว่าหนีไปทางไหน ใช้อะไรเป็นยานพาหนะหรือเดินเท้า แต่ตำรวจไม่ได้ละความพยายามไล่กล้องในรัศมีทุกตัว ทั้งตามในหมู่บ้านถนนตรอกซอกซอยที่มีกล้องในรัศมี หากคนร้ายใช้วิธีเดินเท้าหลบหนีกล้องอาจจะไปเจอกล้องตัวหนึ่งตัวใดก็มีความเป็นไปได้
ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานหัวหน้าชุดสืบสวนประชุมสรุปการติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้บอกว่าในการประชุมสืบสวนในครั้งนี้มีตำรวจภูธรภาคหนึ่งและสืบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามหลักฐานเพื่อนำคนร้ายมาดำเนินคดี รวมทั้งคนร้ายดังกล่าวนั้นได้ทองไป 160 บาท และเลือกทองที่มีน้ำหนักเส้นใหญ่ 10 บาท 15 บาท และ 20 บาท นำไป โดยจะไม่เอาเส้นเล็กๆ และคนร้ายได้เตรียมตัวมาเพื่อปกปิดหน้าตาและลายนิ้วมือเพื่อมาก่อเหตุในครั้งนี้
ส่วนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้สอบปากคำว่ามีส่วนร่วมหรือไม่ ครั้งนี้น่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ซึ่งได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ใกล้เคียงในพื้นที่อีกด้วยเพื่อตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี รวมทั้งมีการเตือนผู้ที่เปิดร้านทองให้เฝ้าระมัดระวังในช่วงก่อนเทศกาลทุกๆ ปี ทุกๆ พื้นที่ มักจะมีการก่อเหตุแบบนี้เป็นประจำ แต่ก็ไม่มากนัก
Advertisement
