จากกรณี อาคารของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ในพื้นที่เขตจตุจักร กทม. ที่กำลังก่อสร้างกว่า 30 ชั้น พังถล่มลงหลังเกิด "แผ่นดินไหว" ในประเทศเมียนมา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค. 2568 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 31 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงนานาชาติ ต่างก็ยังทำปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความระมัดระวังในการค้นหาผู้สูญหายที่ปลอดภัย ซึ่งจากการบินโดรนสำรวจ สามารถจุดสัญญาณชีพได้หลายจุด
ล่าสุดได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม จำนวน 3 ร่าง บริเวณโซน B ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอิสราเอล สามารถเข้าไปถึงจุดดังกล่าวได้เเล้ว สามารถนำออกมาได้ 1 ร่าง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 13 ราย
ส่วนอีก 2 ร่าง ยังไม่สามารถนำออกมาได้ เนื่องจากติดปัญหาโครงสร้างของอาคาร ที่กดทับกันเป็นชั้น ๆ เเละเเรงสั่นสะเทือนจากเครื่องจักรหนัก ทำให้เศษปูนและเศษซากของอาคาร เคลื่อนลงมาปิดทับทางที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปนำร่างออกมา
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนตรวจจับความร้อน และหุ่นยนต์สแกน เพื่อพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต เเต่ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปปฏิบัติงานด้านใน บอกผู้เสียชีวิต 3 ร่างที่พบเพิ่มเติม เป็นการพบในช่วงเย็น โดยร่างแรกพบเมื่อเวลา 17:00 น. หลังจากนั้นถัดมาเวลา 18:00 น พบอีก 2 ร่าง ซึ่งระยะห่าง วัดในแนวราบ ประมาณ 50 เมตร
ส่วนวิธีการค้นหา เจ้าหน้าที่ของอิสราเอล จะใช้เทคโนโลยีเครื่องสแกน หากพบเป้าหมายก็จะชี้เป้าให้กับเจ้าหน้าที่ของไทย เข้าไปนำร่างออกมา เเต่ปัญหาคือไม่สามารถใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ได้ จึงต้องใช้เครื่องจักรขนาดเล็ก เป็นเครื่องเจาะ , เครื่องมือตัดถ่าง , จอบ , เเละพลั่ว ในการขุดเข้าไปในซากอาคาร ดังนั้น จึงถูกจำกัดอุปกรณ์ เพราะสภาพพื้นที่ สวนทางผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมถึงวิธีการว่าจะเข้าไปดำเนินการอย่างไร เพราะจะต้องประชุมร่วมกันทั้งเจ้าหน้าที่ไทยและเจ้าหน้าที่ต่างชาติ
Advertisement