จากกรณีเกิดเหตุ แผ่นดินไหว ศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ความลึก 10 ก.ม. เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และ กทม. ที่เกิดเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างเกิดถล่มลงมา เป็นเหตุทำให้มีคนงานบาดเจ็บ สูญหาย และเสียชีวิตจำนวนมาก
ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ตลอดช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทางทีมงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามใช้เครื่องกลหนัก ทั้งรถจักรกลเจาะปูน รถแบคโฮ เร่งเคลียร์พื้นที่ เพื่อทำการค้นหาผู้ประสบภัยและผู้สูญหาย
โดยเจ้าหน้าที่ยังคงแบ่งโซนการค้นหาเป็น A B C และ D ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็จะเป็นการเคลียร์พื้นที่ในส่วนของโซน B และ โซน C เพื่อที่จะขยับเข้าไป ทำการเคลียร์ในพื้นที่ของโซน A และ D ต่อไป การทำงานก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะระหว่างที่มีการพยายามดึงเศษซากของปูนต่างๆ ก็ต้องระวังการยุบตัวด้วย เนื่องจากบริเวณใต้ซากของอาคารดเป็นที่จอดรถ
ทั้งนี้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็พยายามเร่งทำงานกันอย่างขมักเขม้น เพื่อที่จะเร่งค้นหาผู้สูญหาย อีก 74 ราย ที่ยังคงอยู่ภายใต้ซากอาคารถล่มแห่งนี้ ขณะเดียวกัน ระหว่างที่มีการรื้อถอน โดยการใช้เครื่องจักรกลหนัก เข้ามาเพื่อเร่งรื้อถอนในส่วนของ ซากแท่นปูนขนาดใหญ่ที่กองทับถม ก่อนจะใช้เจ้าหน้าที่และสุนัข K9 รวมถึงการบินโดรนจากความร้อน ในการค้นหาสัญญาณชีพของผู้รอดชีวิต ซึ่งยังคงมีความหวังที่จะค้นหาให้พบ แม้ช่วงเวลาจะล่วงเลยมาเข้าวันที่ 5 ของการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันก็ได้รับการรายงานจาก 1 ในทีมเจ้าหน้าที่ที่ร่วมค้นหาผู้สูญหายว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ จะมีการประชุมจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่บูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะยกระดับการค้นหาให้มากขึ้นกว่าเดิม หากหลังจากนี้ไม่สามารถตรวจพบสัญญาณชีพแล้ว ก็จะมีการพิจารณานำเครื่องจักรกลหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมกับค้นหาร่างผู้เสียชีวิตให้ครบทุกคน ซึ่งข้อมูลนี้ก็ยังคงต้องรอการยืนยัน หลังการประชุมประจำวันในเวลา 08.00 น. เพื่อวางแผนการทำงานในขั้นตอนต่อๆไป
อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลล่าสุด เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 31 มี.ค. 68 ครบ 86 ชั่วโมง เหตุการณ์ อาคารสตง. 30 ชั้น ถล่ม พบผู้เสียชีวิต 13 ราย รอดชีวิต 9 ราย และติดค้าง 74 ราย
Advertisement