เจ้าที่ตำรวจคุมตัว นายสมนิจ ดวงเนตร เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนจะนำตัวฝากขังนั้น ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกผิดหรือไม่ และเหตุใดจึงโกหกไปแบบนั้น และที่สำคัญคือ นายสมนิจ เก็บบัตรพนักงานของ น.ส.กรวิภา ผู้เสียหาย มาได้อย่างไร โดย นายสมนิจ บอกย้ำๆ ว่า ตนเองรู้สึกผิด และขอโทษ ส่วนบัตรพนักงานของผู้เสียหายนั้น ตนเองเก็บได้จากถังขยะ
ในระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัว นายสมนิจ นั้น ผู้สื่อข่าวยังคงได้กลิ่นสุรา และนายสมนิจ ยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนก ตกใจ ก่อนจะเข้าห้องสอบสวนไป
ต่อมาเวลา 11.20 น. พนักงานสอบสวนได้คุมตัว ลุงสมนิจ มาพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษกในช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่ง ลุงสมนิจ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ยอมรับว่าที่ก่อเหตุแบบนั้นเป็น เพราะติดสุราอย่างหนัก และอยู่ในอาการมึนเมา พร้อมอ้างว่ามีอาการทางจิต ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่ง นายสมนิจ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีการใช้สารเสพติด
ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าที่ลุงสมนิจกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาทำให้มีหลายคนสงสาร และเข้าใจผิดถึงขั้นร้องไห้ ลุงสมนิจ ได้ยกมือไหว้บอกว่าอยากขอโทษผู้เสียหาย ประชาชนคนไทยทุกคน ผู้สื่อข่าวจากทุกสำนักข่าว และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยกุเรื่องหลอกลวงใครเช่นนี้มาก่อน และไม่ได้มีเจตนาต้องการให้คนโอนเงินมาให้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่าคนใกล้ชิดของลุงสมนิจนั้นบอกว่าลุงทำพฤติกรรมแบบนี้บ่อย ทางลุง ยืนยันชัดๆ ว่าไม่เคยทำมาก่อน
โดย ลุงสมนิจ อ้างว่าเก็บบัตรพนักงานของผู้เสียหายได้จากถังขยะย่านลาดพร้าว เมื่อต้นปีที่แล้ว และอยู่ในถุงที่ตนเองพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เนื่องจากตนเองมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าการที่ทำแบบนี้ทำให้ครอบครัวของผู้เสียหายตกใจ และเข้าใจผิดคิดว่าลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว ลุงสมนิจ ยกมือไหว้ และบอกว่าตนเองก็รู้สึกผิดอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย รวมถึงตัวผู้เสียหาย
ลุงสมนิจ ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่ทำแบบนี้แล้ว และ ขอโทษคนไทยทั้งประเทศอีกรอบ ส่วนเมื่อวานนี้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ที่บริเวณขนส่งหมอชิตนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหนีแค่เดินไปเรื่อยๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับเงินบริจาคจากประชาชนมาเท่าไหร่เจ้าตัว ยืนยันว่าไม่ได้รับเงิน เพราะไม่มีโทรศัพท์ และไม่มีแอปพลิเคชั่นธนาคาร ส่วนเงินสด 5,000 บาท ที่ได้รับมา ได้คืนให้กับคนที่มอบให้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนเงิน 300 บาทที่มีผู้สื่อข่าวให้มานั้น ยอมรับว่าได้นำไปซื้อสุราดื่มจริง ซึ่งซื้อดื่มไป 1 กั๊ก
ลุงสมนิจก็รู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ตอนนี้ครอบครัวก็ได้รับความเดือดร้อน ลูกสาวก็ได้รับผลกระทบ ยอมรับว่าตนเองรู้สึกผิดกับครอบครัว ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกสาวเนื่องจากไม่มีโทรศัพท์ติดต่อไปหา ส่วนยาที่พบในกระเป๋าซึ่งเป็นยากินนั้น ลุงสมนิจ เผยว่าไม่ทราบว่ามาจากไหน ไม่แน่ใจว่าได้มาจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือไม่
ต่อมาลุงสมนิจก็ได้กล่าวทิ้งท้ายขอโทษว่า "ขอโทษคนไทยทั้งประเทศ ขอโทษนางสาวกรวิภา และลูกสาวของตนเอง ขอโทษทุกคน ขอโทษทีมกู้ภัย สำนักข่าวทุกช่อง พร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก" ซึ่งนายสมนิจได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้สัมภาษณ์แต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากตอนนี้ตนเองมีอาการสั่น และจะเป็นลม
ทางพนักงานสอบสวนให้ข้อมูล จากการสอบปากคำ นายสมนิจ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าที่ทำไปนั้นเป็นเพราะตนเองดื่มสุราหนัก ส่วนสาเหตุที่ติดสุราขนาดนี้เป็นเพราะมีปัญหาทางด้านครอบครัว หลังจากนั้นก็มาใช้ชีวิตโดยเก็บของเก่าตามข้างทางอยู่คนเดียว อีกทั้งอยากจะเป็นที่สนใจและอยากดังพอเจอผู้สื่อข่าวก็เลยกุเรื่องขึ้นมา
นอกจากนี้ตำรวจยังได้นำตัว ลุงสมนิจ ไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ จากการตรวจสอบไม่พบสารเสพติดในร่างกายของนายสมนิจ
เบื้องต้น ตำรวจ สน.บางซื่อ แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหา ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กับลุงสมนิจ หลังจากนั้นจะนำตัวนายสมนิจไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษกในช่วงบ่ายวันนี้
ในส่วนของคดีฉ้อโกงที่นายสมนิจได้มีการรับเงินมานั้นก่อนจะโอนเงินคืนไปให้ ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งหากมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีจะมีการแยกไปเป็นอีกคดีหนึ่ง
Advertisement