ความคืบหน้าเหตุอาคาร สตง.พังถล่ม หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมา
วันนี้ ( 1 เม.ย.68) ทีมข่าวอมรินทร์ได้พูดคุยกับนายสุเมธ นามสมมุติ วิศวกร คนไทยที่จบจากประเทศญี่ปุ่น ได้ให้ความเห็นหลังจากที่มีการตรวจสอบเหล็กแล้วไม่ได้มาตรฐาน โดยกล่าวว่า การที่จะนำเหล็กเข้ามาก่อสร้างในไซต์งานนั้นจะผ่านกระบวนการจัดซื้อ ส่วนมากวิศวกรไม่ได้มีหน้าที่มาตรวจสอบว่าเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เมื่อนำเหล็กเข้ามาแล้ว เขาก็มีความมั่นใจว่า นำมาจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ส่วนคำถามที่ว่าวิศวกรสามารถตรวจสอบเหล็กที่มีการนำมาก่อสร้างได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถทำได้ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่จะไม่มีการตรวจสอบกัน ดังนั้นควรจะมองย้อนกลับไปว่าทำไมโรงงานนั้นถึงมีเหล็กไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา จะมีข่าวว่ามีเหล็กจากประเทศจีน นำเข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เพราะว่ามีราคาถูก จึงทำให้นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ดังนั้นปัจจุบันโครงการต่างๆ ที่มีการสร้างเสร็จแล้วก็มีเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานรวมอยู่ด้วย ตั้งแต่โครงการเล็กถึงโครงการใหญ่ ๆ ซึ่งกว่าจะตรวจพบว่าเหล็กไม่ได้มาตรฐาน ก็มีการขายออกไปสู่โครงการต่างๆ มากมายแล้ว ส่วนคำถามที่ว่าทำไมตึกเหล่านั้นถึงยังไม่ถล่มลงมา ก็ต้องไปดูในหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นแบบก่อสร้าง การดีไซน์ รวมถึงคุณภาพปูนได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น
ซึ่งในฐานะวิศวกรก่อสร้าง เหล็กที่นำมาก่อสร้างและโครงการนี้ไม่ควรจะตกมาตรฐานแม้แต่นิดเดียว เพราะเหล็กก็เหมือนกับกระดูกของมนุษย์ ส่วนปูนก็คือเนื้อ ถ้ากระดูกไม่แข็งแรงก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนตนเองมองว่าบริษัทจีนรายนี้ ส่วนใหญ่ที่ได้รับงานสัมปทานจากรัฐบาล ก็เพราะว่ามีสายป่านที่ยาว มีทุนสูง ส่วนบริษัทเอกชนอื่น ๆ ของไทยถ้าไม่มีทุนพอ ก็ไม่อยากจะรับงานเพราะว่าจ่ายเงินช้า ที่สำคัญ บริษัทของจีนที่รับงานโครงการรัฐสามารถซิกแซกง่าย นิยมลดต้นทุนเพื่อให้ได้กำไรที่มากขึ้น
ซึ่งต่างจากบริษัทต่างชาติหลายแห่งอย่างเช่นญี่ปุ่น จะมีมาตรฐานการทำงานที่ต่างกันไป ที่ไม่ยอมลดต้นทุนเพื่อทำให้ตกมาตรฐาน
ส่วนเรื่องที่ทำให้ตึกถล่มนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งจากเหล็กปูน แบบ และผู้คุมงาน ซึ่งจากที่ตนเองเคยสัมผัสกับบริษัทญี่ปุ่นจะมีการทำงานที่ต่างกัน อย่างเช่น องค์การก่อสร้างต้องมีโปรเจคเมเนเจอร์เป็นคน ญี่ปุ่นหนึ่งคนและต้องมี staff คนไทย 5 คน ต่างจากบริษัทจีนที่มีคนจีน 5 คน แต่มีแรงงานไทยเพียงแค่คนเดียว จึงทำให้การสื่อสารนั้นเกิดปัญหา
Advertisement