จากกรณีเหตุทะเลาะวิวาทยิงกันในงานโคตรเปียก ที่ลานจอดรถห้างดัง เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ นายจตุรวิทย์ สะท้านสุข หรือ ท็อป อายุ 36 ปี เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจได้จับกุม นายกิตติภูมิ คำศรี หรือ หุน อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 และกระสุน 1 นัด ไว้ได้
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (7 เมษายน 68) ทางพนักงานสอบสวน สน. ลาดพร้าว ได้เรียก แม่ แฟน และเพื่อนของผู้ตาย อีก 3 คนที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำ เพื่อบันทึกในสำนวนคดี
โดยนางวัชรา กันทะน่วม แม่ของผู้เสียชีวิตได้เปิดเผยว่า อยากขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้หมด ซึ่งตนเองยังติดใจ เนื่องจากคลิปภาพเหตุการณ์พบว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุมีการพกพาอาวุธปืนมาด้วย แต่ไม่ได้ก่อเหตุ จึงอยากให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกทั้งยังฝากเตือนไปยังผู้จัดงานให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นอาวุธกับผู้ที่มาร่วมงาน เนื่องจากใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีการจัดงานในลักษณะนี้จำนวนมาก เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง และอยากให้เหตุการณ์ของลูกชายตนเองเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้จัดงานต่าง ๆ ด้วย
นายศรัณย์ ศรีวงศ์แก้ว ทนายความเปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปขออำนาจศาลฝากขังเมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว และทางญาติจะไปยื่นต่อศาลเพื่อขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นการก่อเหตุที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายและอุกอาจ และเชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นการตั้งใจก่อเหตุไม่ได้เป็นการถูกลูกหลงแต่อย่างใด
ส่วนทางด้านน้องแพร แฟนสาวผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุนั้นมีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน ซึ่งมีบุคคลหนึ่งในนั้นพยายามใช้อาวุธปืนด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถูกจับกุม(นายต้น) และยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนซึ่งยังไม่ถูกจับกุมด้วยเช่นกัน จึงอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนมาดำเนินคดี
ด้านพันตำรวจเอก ธนาพันธ์ ผดุงการ ผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุยิงในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพ.ร.บ.อาวุธปืน ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุขณะนี้ได้สั่งการฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีใครบ้าง เมื่อทราบตัวตนแล้วก็จะมีการออกหมายเรียกให้เข้ามาให้ปากคำ และหากไม่มาก็จะดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ผู้จัดงานโคตรเปียกได้ข่มขู่นักข่าวสาวช่องดังนั้น พันตำรวจเอก ธนาพันธ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากนักข่าวสาวว่าจะเข้ามาแจ้งความเมื่อใด หากมาแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็พร้อมรับเรื่องและดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอน โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม เพื่อพิสูจน์ทราบความจริง และหากมีการข่มขู่ ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีการละเว้น
ซึ่งหลังจากสอบปากคำแม่ผู้เสียชีวิตแล้วเสร็จ ทางญาติจะไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตยังที่เกิดเหตุด้วย
ในขณะที่ทางทนายความของผู้จัดงานโคตรเปียก ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนสน. ลาดพร้าว เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงในวันเกิดเหตุ เนื่องจากผู้จัดงานก็ได้รับผลกระทบ และได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน จนทำให้ต้องยกเลิกงานเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายไป
ส่วนกรณีความขัดแย้งสำหรับผู้จัดงานและนักข่าวอมรินทร์ทีวี ขณะนี้ยังไม่ได้เป็นคดีความกัน จึงยังไม่ได้รับมอบหมายจากผู้จัดงานให้มาดำเนินการในเรื่องของคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
Advertisement