“คะน้า”เผยพฤติกรรม ฮอต ไฮโซเก๊ กระโดดตึกประชด ไม่สามารถหนีความผิดได้
“คะน้า”เผยพฤติกรรม ฮอต ไฮโซเก๊ กระโดดตึกประชด ไม่สามารถหนีความผิดได้ บ้านเมืองมีกฎหมาย ตำรวจไซเบอร์ลุยเอาผิด ฐานแอบอ้างหลอกประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กัน จอมพลัง พร้อมด้วย น.ส.ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ หรือ คะน้า นักแสดง นางแบบช่องมากสี ได้เดินทางไปที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายร้อน (นามสมมติ) หรือ ฮอต ไฮโซเก๊ ฐานฉ้อโกง กรณีหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญให้กับนายกรัฐมนตรี จำนวน 98,000 บาท
ด้าน พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ระบุว่า ในเคสนี้ ผู้เสียหาย ได้ถูกหลอกให้โอนเงิน ผ่านช่องทางไลน์ จำนวน 98,000 บาท เพื่อจ่ายเป็นค่าแชมเปญ ที่จะนำเป็นของขวัญให้กับท่านนายกรัฐมนตรี ถึงแม้จะมีการคืนเงินในภายหลังแต่ความผิดได้สำเร็จแล้ว สามารถดำเนินการแจ้งความเอาผิดได้ ซึ่งกลอุบายต่างๆ คล้ายคลึงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบหลักฐานแชตในมือถือของผู้เสียหาย เป็นการแอบอ้างนำรูปภาพของตนไปใช้ลักษณะเหมือนกำลังคุยกับตนอยู่ ซึ่งในส่วนนี้ตนยืนยันว่าไม่ใช่ Account Line ของตน รูปภาพที่ใช้เป็นโปรไฟล์ก็ไม่ใช่ภาพ LINE ของตน ซึ่งเป็นการเซฟภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนไปแอบอ้างอีกที ดังนั้นผู้ก่อเหตุจงใจที่จะสร้างหลักฐานชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะหลอกลวงผู้เสียหาย ดังนั้นในส่วนนี้ตนเองก็ถือเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบรายละเอียด เพื่อหาหลักฐานเอาผิดคนก่อเหตุเพิ่มเติม ร่วมทั้งผู้เสียหายรายอื่นๆ เบื้องต้น มีความผิดเข้าข่าย ข้อหาฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชน ว่า ถ้าหากเล่นแอปพลิเคชั่นหาคู่ จะต้องตรวจสอบให้รอบคอบอย่าเชื่อโดยง่าย โดยเฉพาะการแอบอ้าง ถึงข้าราชการผู้ใหญ่ในสังคม เพราะอาจจะเป็น มิจฉาชีพ ที่เอาข้อมูลเหล่านี้มาสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อหลอกประชาชน
ด้านกัน จอมพลัง บอกว่า หลังจากที่ทราบข้อมูลจาก คะน้า ผู้เสียหาย มีเรื่องการหลอกลวง ส่งข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านแอปพลิเคชั่น LINE เช่น การสร้างแชตปลอม ที่มีการสนทนากับข้าราชการผู้ใหญ่ รวมถึงมีการแอบอ้างเบื้องสูง รวมถึงหลักฐาน โอนเงินค่าแชมเปญ 98,000 บาท ให้นายกรัฐมนตรี จึงพามาพบตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีความผิดเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่
ขณะที่ คะน้า ผู้เสียหาย พูดถึงประเด็น พฤติการณ์ของนายร้อน (นามสมมติ) ที่ กระโดดตึก สน.โคกคราม จากชั้น 3 ได้รับบาดเจ็บนั้น ตนมองว่า มันไม่ได้มีเหตุผลใด ที่เขาจะต้องทำถึงขนาดนั้น ซึ่งถ้าหากเขาถูกกระทำจริง ก็แค่นำหลักฐานมาชี้แจงหรือเอาผิดตน ส่วนตัวเชื่อว่า การที่เขากระโดดตึกนั้น ก็ไม่สามารถหนีความผิดได้ เนื่องจากบ้านเมืองมีกฎหมาย ตนเองมั่นใจในหลักฐาน และพร้อมเข้าสู่กระบวนการ ส่วนผู้ก่อเหตุหากหากมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดความ ก็สามารถนำหลักฐานมาชี้แจงได้
Advertisement
