จากกรณีที่อดีตนักแสดงสาว "คะน้า ริญญารัตน์" ออกมาเปิดใจผ่านรายการดัง ถึงเหตุการณ์ที่ถูก "ไฮโซเก๊" หลอกลวง อ้างรู้จักบุคคลสำคัญ ข้าราชการระดับสูง ไปจนถึงเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และยังแอบอ้างเบื้องสูง แถมยังมีโลกสองใบ หลังถูกขอแต่งงาน
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับนางสาวมิ้ว ( นามสมมติ ) อายุ 22 ปี อดีตสาวคนสนิท ของไฮโซฮอท เผยยว่าเธอได้รู้จักกับไฮโซฮอทตอนเธออายุ 18 ปี เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไฮโซฮอท ทักมาใน IG อยากปรึกษาเรื่องการลุงทุน และก็มีหยอดจีบบ้าง
ก่อนจะอ้างว่า “ ตนเองมีสิทธิ์ของ BDMS ของโรงพยาบาลกรุงเทพ 100,000 หุ้น ราคา 2,800,000 บาท พร้อมกับสิทธิ์บริหาร รพ.ด้วย “
ก่อนที่ไฮโซฮอท จะขอนัดเจอ คุยเรื่องหุ้น ตนเองก็ออกไปเพราะมองว่าเป็นเรื่องการลงทุน พอออกไปเจอไม่มี ไม่ได้มีการพูดเรื่องหุ้นแต่กลับยัดเยียด ซื้อเสื้อผ้าหรูๆให้ พอรับมาแล้วก็มาบังคับตนเองบอกว่า “ คืนนี้จะมีงานต้องออกไปด้วย แต่งตัวสวยๆหรูๆไปเจอผู้ใหญ่ ”
คืนนั้นเธอก็ไปด้วยที่บาร์แห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ก็ไปเจอผู้บริหารระดับ ผอ. และผู้หญิงใส่สูทดูภูมิฐาน นั่งพูดคุยเรื่องทั่วไป หลังจากเสร็จคืนนั้น คนที่จ่ายเงินในราคาเกือบ 10,000 ก็เป็นไฮโซฮอทเอง ทำให้เธอเชื่อสนิทใจว่าเป็นคนดีมีฐานะจริง
วันต่อมาบอกว่าจะพาไปงานอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวธนาคารแห่งหนึ่ง เชิญเฉพาะผู้ที่มีเงินฝาก 50-100 ล้านมา เธอไม่อยากจะไปก็ข่มขู่ บังคับให้ไปด้วย พอไม่ไปก็อ้างว่างานจะเสีย โทรมาจิก 30 กว่าสายให้ไป
หลังจบงานก็ไม่ได้กลับบ้าน พาไปดูหนังต่อ แล้วอ้างว่าตัวเองเป็นลูกค้า VIP ของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ชวนขึ้นไปแช่อ่าง และนอนรอ ระหว่างรอรอบหนัง แต่เธอไม่ไป สักพักเจ้าตัวก็บอกจะไปทำธุระ แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
ยอมรับตอนนั้นที่คุยได้แค่ 1 เดือนยังเป็นคนสนิทยังไม่ถึงกับแฟน เพราะเจ้าตัวบอกว่า "ถ้าคบกันเป็นแฟนจะซื้อรถให้ ส่งแชตที่คุยกับเซลล์มาให้ จะพาไปดูบ้าน" ตอนนั้นแรก ๆ ถ้าคนได้เจอคงไม่เชื่อว่าไฮโซฮอทรู้จักคนใหญ่คนโตแต่ที่เธอเจอคือมันทำให้เชื่อสนิทใจ
นางสาวมิ้ว เล่าต่อว่า นอกจากนี้ไฮโซฮอทยังซื้อสร้อยเพชรที่วันนี้เธอใส่มาและโชว์ให้ทีมข่าวดู ไฮโซฮอทก็ซื้อให้ชุดแบรนด์เนม ข้อมือเพชร ส่งมาให้แบบเชื่อถือได้ ไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถส่วนตัวบอดี้การ์ดแต่ละวันไม่ซ้ำกันเลยค่อยอำนวยความสะดวกให้อย่างดีถือของให้ด้วย
หลังจากที่ไม่ได้คุยกันต่อ ตนเองก็แชร์ลงในกลุ่มว่าทุกอย่างที่ให้เธอมาปลอมหมด เธอกลับถูกด่า กลับมาบอกว่า “ จะว่าใครไม่ดูนามสกุลเลย ” ตอนนั้นเจ้าตัวใช้ “ สิงหเสนี” ตอนนี้ดีใจที่หลุดพ้นมาได้ แต่ก็เสียใจที่คนอื่นๆโดนแบบนี้
Advertisement