จากกรณีเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2568 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณี คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด นำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ วิศวกรจากกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง รวม 4 จุด ได้แก่ บริษัท คาร์ฮัพ จำกัด, กิจการร่วมค้า PKW, บริษัท ว.และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด เพื่อตรวจยึดพยานหลักฐานประกอบการสอบสวนดำเนินคดี พร้อมพิจารณาเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำประกอบพยานหลักฐานโดยเร็ว ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ (18 เม.ย. 2568) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงสาเหตุที่รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายค้น บริษัท คาร์ฮัพ จำกัด และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ว่า เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า "นายบินลิง วู" ถือเป็นเจ้าของ เป็นผู้บริหารบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ตัวจริง แม้ไม่ปรากฏชื่อในโครงสร้างกรรมการในระบบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่กลับปรากฏความเชื่อมโยงในบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของเขา โดยการไปนั่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัท ดังต่อไปนี้
1.บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด นายบินลิง วู เป็นผู้ถือหุ้น
2.บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นายบินลิง วู เป็นผู้ถือหุ้น
3.บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นายบินลิง วู เป็นทั้งกรรมการและผู้ถือหุ้น
4.บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด นายบินลิง วู เป็นผู้ถือหุ้น
ซึ่งบริษัทเหล่านี้ยังมีการใช้กลุ่มคนเดียวกัน อาทิ นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ตั้งของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในซอยพุทธบูชา 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ยังเป็นที่อยู่ของลูกชาย นายบินลิง วู ชื่อ "นายโรเจอร์ส" เป็นคนจีนแต่พูดไทยได้
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยต่อว่า จากการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 บริษัท พนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดพยานหลักฐานต่างๆ และยังพบใบเอกสารควบคุมงานรายวันอีกเป็นจำนวนมาก รวมประมาณ 12-13 ลัง โดยพบว่ามีรายชื่อวิศวกรควบคุมงานในนามกิจการร่วมค้า PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด , บริษัท ว และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด , บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด) จำนวน 51 ราย ปรากฏชื่อดังนี้ นายสมชาย ทรัพย์เย็น นายสมเกียรติ ชูแสงสุข นายปฏิวัติ ศิริไทย และนายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ลงนามลายเซ็นในบางส่วน โดยพนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานไปตรวจสอบก่อนว่าบริษัทใดในนามกิจการร่วมค้า PKW มีวิศวกรเกี่ยวข้องกี่ราย ซึ่งบางงานอาจมีการว่าจ้างฟรีแลนซ์บ้าง เพราะค่าจ้างวิศวกรค่อนข้างสูง จากนั้นจะพิจารณาเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำตามขั้นตอน
สำหรับรายชื่อวิศวกรที่ตรวจสอบพบ 51 ราย ประกอบด้วย 1.นายสมชาย ทรัพย์เย็น 2.นายสมเกียรติ ชูแสงสุข 3.นายสราวุฒิ (สงวนนามสกุล) 4.นายปรีดา (สงวนนามสกุล) 5.นายวิศวกร (สงวนนามสกุล) 6.นายชินกร (สงวนนามสกุล) 7.นายพงศกร (สงวนนามสกุล) 8.นายปัญญา (สงวนนามสกุล) 9.นายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) 10.นายประสิทธิ (สงวนนามสกุล)
11.นายอนุชิต (สงวนนามสกุล) 12.นายนัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) 13.นายพิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) 14.นายสมัคร (สงวนนามสกุล) 15.นายนพปฎล (สงวนนามสกุล) 16.นายวิศัลย์ (สงวนนามสกุล) 17.นายสมคิด (สงวนนามสกุล) 18.นายอนุชา (สงวนนามสกุล) 19.นายสุชาติ (สงวนนามสกุล) 20.นายอิศรพงศ์ (สงวนนามสกุล)
21.น.ส.ทรงศรี (สงวนนามสกุล) 22.นายจักรรินทร์ (สงวนนามสกุล) 23.นายศิริศักดิ์ (สงวนนามสกุล) 24.นายคธายุทธ (สงวนนามสกุล) 25นายธนัญชัย (สงวนนามสกุล) 26.นายประกาศิต (สงวนนามสกุล) 27.นายธีรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) 28.นายพิฆาต (สงวนนามสกุล) 29.นายยศวัฒน์ (สงวนนามสกุล) 30.นายประภากร (สงวนนามสกุล)
31.นายสายันต์ (สงวนนามสกุล) 32.นายธีรยุทธ (สงวนนามสกุล) 33.นายนพพร (สงวนนามสกุล) 34.นายวีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) 35.ดร.พลเดช (สงวนนามสกุล) 36.Palmer 37.นายวรกฤต (สงวนนามสกุล) 38.นายพรสวรรค์ (สงวนนามสกุล) 39.น.ส.สุภาพร (สงวนนามสกุล) 40.นายวิธาน (สงวนนามสกุล)
41.นายนพดล (สงวนนามสกุล) 42.นายณพัช (สงวนนามสกุล) 43.นายวิชัย (สงวนนามสกุล) 44.นายจุติธัช (สงวนนามสกุล) 45.นายปฏิวัติ ศิริไทย 46.นายพงษ์สันต์ (สงวนนามสกุล) 47.นายมานพ (สงวนนามสกุล) 48.น.ส.นริศรา (สงวนนามสกุล) 49.น.ส.สุภาวิดา (สงวนนามสกุล) 50.น.ส.นภัส (สงวนนามสกุล) และ 51.น.ส.จุฑามาศ (สงวนนามสกุล)
สำหรับบรรดา 51 รายชื่อวิศวกร ล่าสุดมี 2 วิศวกร ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในช่วงเช้าวันนี้ โดยพนักงานสอบสวนนัดหมายจัดเตรียมห้องประชุม กคร. หรือกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เป็นสถานที่ในการสอบถามข้อมูล อย่างไรก็ตาม วิศวกร 2 ราย ประสงค์ให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว ไม่ประสงค์ให้สัมภาษณ์หรือบันทึกภาพโดยสื่อมวลชน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงเปลี่ยนสถานที่สอบปากคำ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีวิศวกรชาย 1 ราย คือ นายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) พนักงานบริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ระดับ ภาคีวิศวกร สาขาโยธา โดยเป็นวิศวกรอยู่ในบริษัท ว. และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด มากกว่า 10 ปี ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลกรณีอาจถูกแอบอ้างเป็นผู้ควบคุมงานตึก สตง. อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ยังมี นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ที่มาแสดงตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่าถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW เช่นเดียวกัน ทำให้ปัจจุบันโครงการก่อสร้างตึก สตง. โดยเฉพาะในส่วนของกิจการร่วมค้า PKW เข้าไปเกี่ยวข้อง ได้มีผู้แสดงตนปฏิเสธความเกี่ยวข้องแล้ว 2 ราย คือ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข และนายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล)
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยอีกว่า ส่วนกรณีของ นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี ที่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร สตง. นั้น ล่าสุดเจ้าตัวได้ประสานแจ้งว่ามีอาการเจ็บป่วย ไม่สามารถเข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงนี้ได้ แต่หากหายป่วยแล้วจะให้ความร่วมมือเข้าพบดีเอสไอ คาดว่าเป็นสัปดาห์หน้า
Advertisement