วันที่ 21 เมษายน 2568 นายสำเภา พรมชาติ อายุ 71 ปี บ้านเลขที่ 5 1หมู่3 ต. อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากไฟไหม้คอกวัวของตัวเองทำให้วัว 2 ตัว บวกกับลูกในท้องอีก 1 ตัว รวมเป็น 3 ตัว ถูกไฟคลอกตายในคอก
นายสำเภา เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.คืนที่ผ่านมาตนได้ยินเสียง เหมือนไฟแตก อยู่บริเวณหน้าบ้านจึงลุกขึ้นมาดู พบว่ามีไฟพุ่งออกจากเตาถ่าน เปลวไฟพุ่งไปหากองฟางอัดก้อนที่กองไว้กว่า 400 ก้อนแล้วลามไปไหม้คอกวัวอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียว จะต้องไปช่วยวัวในคอก ซึ่งตนแบ่งออกเป็น 2 คอก ติดกันเบื้องต้นวิ่งจะไปช่วยวัว คอกที่ท้องแก่ แต่ไปไม่ได้เพราะตน โดนไฟลวกจึงวิ่งไป เปิดอีกคอกหนึ่งซึ่งมีวัวอยู่ด้วยกัน 3 ตัว ออกมาได้
ส่วนวัวที่ตนช่วยไม่ได้มีวัวอยู่ 2 ตัว ในจำนวนนี้ตั้งท้องใกล้ออก 1 ตัว ถูกไฟคลอกตายทั้งหมด ส่วนตัวเองได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง ไหล่ และตามขาหลายจุด นอกจากนี้ยังมีรถไถนาแบบเดินตามเสียหายและเลื่อยยนต์ตัดไม้อีก 2 ตัว ถูกไฟไหม้เสียหายด้วย สิ่งที่แปลกใจที่สุดคือเตาถ่านระเบิดได้อย่างไร ทั้งที่ตนปิดเตาแล้ว และเอาน้ำรดเตาทุกวันมาเป็นวันที่ 15 แล้ว อีกทั้งยังมีฝนตกหนักมาอีก 3 ครั้ง แต่ไฟปะทุขึ้นมาได้ซึ่งตนไม่เคยเจอมาก่อนตั้งแต่เผาถ่านมานานกว่า 40 ปี
น.ส.สายใจ พรมชาติ อายุ4 0 ปี ลูกสาวนายสำเภา เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนวิ่งมาจากบ้านอีกหลังหนึ่ง เพื่อจะมาช่วยพ่อเกรงว่าพ่อจะเป็นอันตราย โดยเฉพาะพ่อรักวัวที่เลี้ยงไว้มาก โชคดีที่พ่อหลุดออกจากกองไฟมาได้
ทั้งนี้ นายสายใจ เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ 3 วัน ตนขี่รถจักรยายนต์ล้มกับลูกชาย จึงพาลูกไปสะเดาะเคราะห์ หมอพรหมณ์ทักมาว่าช่วงนี้ระวังจะมีเคราะห์ใหญ่เกี่ยวกับสัตว์ใหญ่ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับวัว
Advertisement