วันนี้ (21 เม.ย. 68) หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มทำการเคลียร์พื้นที่ที่เกิดเหตุ โดยทำการลากรถในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 คัน ไม้เก็บรักษาที่ สภ.วังขอนแดง พร้อมทำการฉีดทำทำความสะอาดผิวการจราจรเป็นการด่วน เนื่องจากตั้งแต่เกิดอุบัติเกิดขึ้น ส่งผลให้มีรถที่สัญจรในสาย 304 มีรถติดสะสมเป็นระยะทางยาว ซึ่งในขณะนี้ยังมีปริมาณรถติดสะสม ในช่วงขาล่องจาก อ.วังน้ำเขียว ไปในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นอย่างมาก
ส่วนที่ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.นาดี และสภ.วังขอนแดง มาช่วยทำการสอบปากคำกับผู้โดยสารที่เดินทางมาประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หลังจากสอบปากคำเรียบร้อยจะให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายได้เร็วขึ้น
ต่อมา ได้มีนักจิตวิทยาจากสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เดินทางมาพูดคุยกับผู้ประสบอุบัติ เนื่องจากเกรงว่าผู้ที่เกิดอุบัติในครั้งนี้ อาจจะต้องให้การดูแลและช่วยเหลือ และจากตรวจสอบพบว่ามีผู้ประสบอุบัติเหตุ จำนวน 1 ราย ต้องให้นักจิตวิทยาเข้าดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางนักจิตวิทยาจะส่งข้อมูลไปในจังหวัดรายนั้นอยู่อาศัย
ส่วนรถบัสโดยสาร ประจำทาง สายหนองคาย- ระยอง ที่นำมาเก็บรักษาที่ สภ.วังขอนแดง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี ได้เข้าทำการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ เพื่อนำข้อมูลและหลักฐานที่เก็บได้ ไปวิเคราะห์ว่าสาเหตุการเกิดเหตุมาจากสาเหตุใดบ้าง
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถบัสโดยสาร ประจำทางสายหนองคาย- ระยอง ต้นทางเดินทางมากจาก จ.หนองคาย ปลายทาง จ.ระยอง โดยมีผู้โดยสารเต็มคันรถ บางรายไม่มีที่นั่งต้องยืนโดยสารมา เมื่อรถวิ่งเข้ามาในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่มีการจอดพักรถลงเวลาที่บริเวณจุดสกัดผางาม ที่เป็นจุดที่ทางจังหวัดปราจีนบุรี ได้กำหนดให้รถจอดเพื่อลงเวลาและพักรถ ก่อนเดินทางลงเขาโทน ขณะที่รถลงเขาโทนผู้โดยสารเริ่มได้กลิ่นเหม็นไหม้ รถเริ่มวิ่งเร็วขึ้นและส่ายไปมา จนทำให้ผู้โดยสารร้องด้วยความตกใจ บางรายก็ร้องให้คนขับจอดรถ จากนั้นไม่นานรถก็เสียหลักไปชนท้ายกับรถเทรลเลอร์ และรถพ่วงบรรทุกแป้งมัน จนทำให้เกิดไฟไหม้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย
น.ส.สโรชา จันทร์สีโคตร ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ต้นทางขึ้นมาจากอุดรจะเดินทางไประยอง รถก็จอด บขส.ตามปกติไม่แน่ใจว่าล่าสุดจอดที่ บขส.อะไร แต่มีความรู้สึกว่าระหว่างลงเขาก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ สักพักรถก็เริ่มเร็ว และแกว่งรถมันเอนไปซ้ายเอนไปขวาแล้วมันก็เร็ว คนในรถตะโกนให้จอดและตกใจทั้งเสียงกรี๊ด และเสียงร้องไห้เพราะรถเอนซ้ายเอนขวา ไม่นานก็รู้สึกว่ารถชน แต่มองไม่เห็นว่าชนอะไรรู้สึกว่ามันชนแรงมาก จังหวะที่รถชนมันยังหนีออกมาไม่ได้แต่ละคนก็มีอาการบาดเจ็บ บางคนเบาะที่นั่งทับอยู่บางคนก็มองหาของอยู่ บางคนก็รีบช่วงนั้นระหว่างเบาะแคบ คนก็พยายามที่จะเบียดกันออกมาก็มีพี่บางคนที่ช่วยกันถีบกระจกหาค้อนเพื่อที่จะมาทุบกระจกระหว่างที่ชนประมาณ 30 วินาที ควันก็เริ่มขึ้นแล้วมีพี่ก็ตะโกนบอกว่าไฟไหม้แล้วคนก็ตกใจ ยิ่งเบียดหาทางออกมา ระหว่างที่ออกมาก็เห็นลุงเหมือนเจ็บอยู่และลงไม่ได้
ส่วนผู้โดยสารอีกราย ได้ให้ข้อมูลว่า ตนขึ้นรถจากกุมภวาปีจะไปลงที่ชลบุรีช่วงที่แวะโคราช ทางเจ้าของรถก็เอาข้าวกล่องมาแจก เมื่อถึงแยกเข้าเขาปักธงชัย รถก็เลี้ยวเข้าสายปักธงชัย เดินทางมาเรื่อยๆ แล้วก็มีเสียงคนร้องกรี๊ด ความรู้สึกตนก็ดิ่งลงไปเลยแล้วก็ได้ยินเสียงรถชนดังตึ้ม หลังจากนั้นตนก็หาทางออกมาจากรถ ช่วงลงเขาตนก็หลับหลับๆตื่นๆแต่ได้ยินเสียงคนกรี๊ดแล้วก็เสียงดังตึ้ม ความรู้สึกก็ดิ่งไปเลย
Advertisement