เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 เม.ย. นายเน็ต ผู้บาดเจ็บ ออกมาเปิดใจกับ สื่อมวลชน หลังจากที่ ถูกหนึ่ง ในลูกนักการเมือง (นายกเบี้ยว) ทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้ไม้หน้า 3 ตีทั้งหมด 3 ครั้ง จนกะโหลกยุบ ผ่านไป 19 ปี ไร้การเยียวยาและคำขอโทษ
นายเน็ต กล่าวว่า ตนถูกตีด้วยไม้หน้า 3 ทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย ปัจจุบันต้องอยู่กับอาการผลข้างเคียง จากที่โดนตีกะโหลกยุบ มีอาการอ่อนแรงซีกซ้าย มีอาการปวดปวดหัวเวียนหัว โลกหมุนเกือบตลอดเวลา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย อีกฝ่ายไม่เคยทักมาขอโทษหรือว่าติดต่ออะไรทั้งสิ้น ส่วนที่อีกฝ่ายอ้างว่าตนไปจับมือลูกสาวเขา ก็เลยบันดาลโทสะ ตีเข้ามาที่ศีรษะของตน แต่พยานที่ให้การทั้งหมด 30 ปาก เห็นไม่ตรงกับที่เขาอ้าง ประเด็นนี้จึงถูกปัดตกไป
“ ที่ผ่านมาไม่ได้รับการติดต่ออะไรมาเลย มันไม่ได้กระทบแค่ชีวิตของผม แต่ว่ากระทบทั้งครอบครัว พี่ชายต้องดรอปเรียนมาและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่างๆไม่ใช่น้อย ซึ่งตรงนี้มันผ่านไปแล้วไม่สามารถเรียกอะไรกลับมาจากอีกฝ่ายได้ และถ้าจะให้คาดหวังก็คงจะริบหรี่ เพราะถ้าหากจะเยียวยาก็คงจะเยียวยามานานแล้ว วันนี้ที่ออกมาพูดไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร แค่อยากจะให้สังคมเห็นมากกว่าว่าสิ่งที่ผมได้เจอมีอะไรบ้าง ส่วนกรณีเคสปัจจุบัน ผมไม่ทราบเนื่องจากระยะเวลามันห่างกันมากแล้ว ผมออกมาแชร์ประสบการณ์ในด้านของตนเองว่าไม่เคยได้รับอะไรเลย แต่ว่าเวลาผ่านไปเขาอาจจะเยียวยาตามที่กฎหมายกำหนด ”
หากย้อนกลับไปในตอนนั้นตนไม่ได้รับความจริงใจ ไม่ได้รับคำขอโทษสักคำ และไม่ได้รับกระเช้าเลย ตั้งแต่ที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่ได้มาดูแลและไม่ได้มาเยี่ยมเลย สมัยของตนยังไม่ได้มีโซเชียลและไม่ได้มีเรื่องของสื่อที่เข้ามาตีแผ่เรื่องนี้การต่อสู้จึงค่อนข้างลำบาก
ส่วนเรื่องการเยียวยา ตอนแรกตกลงกันเอาไว้ว่าอีกฝ่ายจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด และอยากให้เรื่องนี้มันจบลง แต่เป็นการต่อรองกันมานานมาก เราก็ไม่เคยได้รับเลยสักบาท ที่ผ่านมาก็มีการไกล่เกลี่ยในทุกครั้งที่จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลและไปที่ชั้นศาลแต่ว่าศาลได้ตัดสินแล้ว จนกระทั่งคดีสิ้นสุดก็ยังไม่ได้รับการชดเชยอะไร
ซึ่งในตอนแรกศาลให้ชดเชยในจำนวนหลักแสน แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้จ่ายเงินในจำนวนนี้ ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็ส่งผลกับชีวิตตนมาก อนาคตที่ตนควรได้ มันก็หาย กีฬาที่ตนเคยเล่นได้ มันก็ไม่สามารถเล่นได้แล้ว รวมทั้งครอบครัวของตนเครียดมาก จนครอบครัวแตกไป เมื่อกลับมาแล้ว มันก็ไม่เหมือนเดิม แล้วพี่ชายของตนก็ต้องมาซวยเพราะเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ หลังจากที่เป็นข่าวหากคู่กรณีจะมาชดใช้ค่าเสียหายและค่าเยียวยามองว่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยินดี แต่คิดว่ มันคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนที่ตนบอกว่าอยากให้มีการตรวจสอบครอบครัวของคู่กรณีนั้น มองว่าในการตรวจสอบ มันควรจะมีการตรวจสอบของทุกภาค ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ซึ่งการที่ตนเห็นว่าครอบครัวเล่นการเมืองทั้งหมดเลยและการเมืองท้องถิ่นด้วย ตรงนี้จึงอยากให้ไปช่วยตรวจสอบถึงความโปร่งใสของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ได้ว่าว่าอีกฝ่ายทุจริตหรืออย่างไร แต่ควรจะมีการตรวจสอบหน่อยและเขาก็เคยมีกรณีที่ไม่ดีเกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ได้มีการข่มขู่เพิ่มเติมแล้ว มีเพียงแค่ก่อนหน้านี้ตนได้โพสต์ชี้แจงเรื่องราวของตัวเองในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีเพื่อนเพื่อนของอีกฝ่ายเข้ามาคอมเมนต์ แต่สุดท้ายก็เงียบไป ตนมองว่าสิ่งที่เจอนั้นคือพยายามฆ่า ตนไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลย มีแต่เสียโอกาสทุกอย่าง อีกฝ่ายก็แค่เข้าสถานพินิจแป๊บเดียวก็ออกมาแล้ว
ทั้งนี้ อยากให้มีการพิจารณาว่า สท.หรือผู้ลงสมัครทั้งหลาย คนไหนที่ยังไม่มีความพร้อมในการดูแลประชาชน ก็ให้โอกาสเขาไปคราวหน้า ให้เขาไปปรับปรุงตัวใหม่ก็ได้เราควรดูในเรื่องความพร้อม ของคนที่จะดูแลเราดีกว่า
Advertisement