(21 เม.ย. 2568) ร.ต.อ.กิตติพงษ์ สีหบุตร ร้อยเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งจากทางหน่วยกู้ภัยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูว่า มีเหตุเด็กเสียชีวิตที่ บ้านหนองหอยบ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 10 ต.ศรีมหาโพธิ หลังจากรับแจ้ง จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี ทางเจ้าหน้าที่พบร่าง น้องเก้า เด็กชายอายุ 4 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ในกระต๊อบ จากการตรวจสอบตามร่างกาย พบตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำ ใบหน้าบวมปูดจนหน้าผิดรูป ทางเจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยนำร่างน้องเก่าส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
น.ส.ประภาพิณ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี แม่เด็ก กล่าวว่า มารับลูกไปก่อนจะถึงสงกรานต์แต่ไม่แน่ใจว่ารับวันที่เท่าไร รับลูกไปแล้วก็กลับมาส่งของอีกวัน ส่งให้พี่เขาแล้วกลับโดยที่ไม่ได้เอาลูกไปด้วย เอาลูกวางไว้ตรงนั้น ตอนรับไปเขาไปอยู่กับแฟนใหม่โดยที่แฟนใหม่ไม่ทำอะไรเลยรับประกันได้เขาอยู่กับตนตลอด เริ่มสังเกตเริ่มสังหรณ์ใจแล้วว่า ทำไมต้องตี เขาก็บอกว่าตีเพราะเด็กมันดื้อ มันมึนมันพูดยาก อันนี้หนูก็ไม่ได้ใส่ใจจนกระทั่งเกิดเรื่องหนูคิดว่าเป็นฝีมือคนที่เลี้ยงหนูมั่นใจ จากนี้ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ลูกหนูก็ไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยตีถึงขั้นเขียวและเป็นแบบนี้ หนูเป็นแม่หนูไม่เคยตีลูก แต่คำให้การแบบนี้มันก็ขัดแย้งกับคนในบ้านที่บอกว่าเด็กมีแผลมาตั้งแต่แม่เอามาไว้แล้ว หนูรับรองว่าไม่มี เพราะลูกอยู่กับหนูตลอด หนูไม่เคยตีลูกถึงขนาดนี้ ได้แต่ดุว่า
น.ส.รุ่งทิวา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี กล่าวว่า ที่เด็กมีอาการเขียวก็พบตอนอาบน้ำแล้วมีจุดเขียวๆ ตามตัว มีรอยนิ้วตามตัวและมีรอยเชือกและรอยกัดที่หน้าอก หลังจากที่แม่กับพ่อเลี้ยงมาส่ง ก็ถามเด็กว่าไปโดนอะไรมา เด็กบอกว่าบอกไม่ได้เดี๋ยวเขาจะฆ่าหนู เด็กบอกแค่นั้น แล้วก็บ่นว่าเจ็บท้อง แล้วเด็กบอกว่าเหนื่อยแล้วก็นอน มาอยู่ได้ 3 วันแล้ว ก็ไม่ได้เอะใจว่าเด็กถูกทำร้ายมาหรือไม่ เพราะก็ไม่รู้สาเหตุ เช้าก็ไปธุระกลับมาก็มาเห็น ไม่ได้พาเด็กไปหาหมอ ได้แต่ซื้อยามาให้กิน เพราะเด็กแค่เจ็บท้อง ก็เอายาลดไข้และยาแก้ปวดท้องให้กิน และเด็กก็ซึม ในเรื่องนี้ก็คิดว่าเด็กถูกทำร้ายมาเพราะมีรอยเชือก ในใจคิดว่าเด็กถูกทำร้ายร่างกายมาแต่ไม่รู้ว่าใครทำ ตอนที่แม่เอาลูกมาส่งก็ไม่มีใครเห็น
นายรัตน คนที่ดูแลเด็กเลี้ยงเด็ก กล่าวว่า น้องนอนหลับ ผมก็เรียกเขาก็นิ่ง รอยจ้ำๆ ก็มีมาตอนไหนไม่รู้ตนไม่ได้สังเกต ลูกสาวกับน้องสาวอาบน้ำให้ก็เห็น ตอนเช้าอีกวันก็หน้าเขียวที่เขาเอามาให้ก็ประมาณ 3-4 วัน ก็ถามว่าทำไมมีรอยเขียว เด็กก็บอกว่าถูกตีมาแต่ไม่ได้บอกว่าใครตี
จากการสอบถามทราบว่า เด็กที่เสียชีวิตนั้นไม่ใช่ลูกหลานของคนในบ้าน แต่มีแม่ชื่อ เบล อายุ 20 ปีเศษ ได้นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่บ้าน และจากการบอกของ น.ส.รุ่งทิวา เป็นคนที่ดูแลและเลี้ยงเด็กได้มาประมาณ 2-3 เดือน ที่แม่เด็กได้มาฝากไว้ โดยบอกว่าก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต แม่ของเด็กกับพ่อเลี้ยงได้มารับตัวไป เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว และเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา ได้นำกลับมาส่งและเอาไว้ตรงแคร่ใต้ต้นไม้ เมื่อตนเองจับเด็กอาบน้ำก็เห็นเป็นรอยจ้ำตามลำตัวเขียวช้ำไปหมด จึงได้ถามเด็กไปว่าหนูไปโดนอะไรมา ซึ่งเด็กบอกว่าโดนตีและทำร้ายมา ตนเองได้พยายามสอบถามว่าใครเป็นคนทำเด็กไม่ยอมบอกพูดเพียงแต่ว่าเขาไม่ให้พูด ถ้าพูดแล้วเขาจะฆ่าให้ตาย ซึ่งตนเองคิดว่าเด็กไม่เป็นอะไรมากเด็กพูดเพียงแต่บอกว่าปวดท้องตนเองจึงได้หายาแก้ปวดท้องกับยาพารามาให้กินจนกระทั่งผ่านมา 3-4 วัน ซึ่งวันนี้ตนเองไม่อยู่ออกไปธุระกลับมาก็มาพบว่าเด็กได้เสียชีวิตแล้วเพราะพี่ชายได้บอกตนเองแบบนั้น
และจากการสอบถามเพิ่มเติม นายรัตน ซึ่งเป็นพี่ชายของ น.ส.รุ่งทิวา ผู้ที่มาพบศพคนแรกบอกว่าเด็กคนดังกล่าวซึ่งมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 2-3 เดือนตามที่ น.ส.รุ่งทิวา บอกไว้ครั้งแรกซึ่งตนเองเป็นคนที่ดูแลมาโดยตลอดไปไหนมาไหนจะเอาไปด้วยและยังบอกด้วยว่ารักเด็กคนนี้เหมือนลูก ก่อนที่จะมาพบว่าเด็กเสียชีวิตนั้นตนเองได้ออกไปธุระข้างนอก ก่อนที่จะออกไปได้ถามเด็กว่ากินอะไรหรือยัง เด็กบอกว่ายัง จึงได้ต้มมาม่าทิ้งไว้ให้แล้วก็ออกไปช่วงสาย กลับมาช่วงบ่ายก็พบเด็กนอนเสียชีวิตอยู่สภาพแบบนั้น แต่จากการสอบถาม นายรัตน ให้การวกไปวนมาเดี๋ยวบอกว่าแม่มารับไปเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา บางทีก็บอกว่ามารับไปเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา ถามไปถามมาจับใจความไม่ได้จ้องแต่จะเป็นลมอย่างเดียวต้องให้ดมแอมโมเนียอยู่ตลอดเวลา
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่า เด็กมีรอยคล้ายถูกทำร้ายบริเวณหน้าฝั่งขวาบวมปูดเขียวช้ำปากแตกตามลำตัวมีรอยจ้ำประมาณเกือบ 10 แห่ง บริเวณลูกอัณฑะบวมปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนสาเหตุการตายน่าจะมาจากการถูกทำร้ายในการสันนิษฐานเบื้องต้น
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวทางแม่ของเด็กมาสอบปากคำอีกครั้ง ตอนนี้ยังตามตัวไม่ได้ เพราะไม่อยู่กับที่ ถ้าเจอแล้วจะได้สอบสวนหาสาเหตุว่าเป็นฝีมือของทางฝั่งฝ่ายแม่เด็กหรือว่าเป็นฝั่งที่รับดูแลเด็กไว้ ซึ่งตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใดที่ทำให้เด็กถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนศพเด็กที่เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดอีกครั้ง
Advertisement