จากกรณี นาย อำนาจ ทองขำ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายงานช่างของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง เสียชีวิต หลังจากถูกก้อนปูนขนาดใหญ่หล่นลงมาใส่รถกระบะ ขณะขับอยู่ใต้ต่างระดับขาออกกรุงเทพฯ บนถนนพระราม2 ทำให้อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือนจากแรงอัดกระแทก ตับฉีกขาด และเลือดที่ออกในช่องท้อง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดยนางจันทร์แรม ทองขำ อายุ 46 ปี ภรรยาและญาติของนายอำนาจ ที่มาเฝ้ารอการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร นับตั้งแต่แรกรับตัวผู้บาดเจ็บ ได้รับแจ้งข่าวการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ว่า นายอำนาจหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 เม.ย. 68 ที่อาคารสันตินิรามัย (ห้องเก็บศพ) โรงพยาบาลสมุทรสาคร นางจันทร์แรม ภรรยาของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยนายณัฐพงษ์สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร พรรคประชาชน ในฐานะผู้ให้การช่วยเหลือประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่วันแรก ตลอดจนน้องชายผู้เสียชีวิต ญาติพี่น้อง รวมถึงมารดาของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ ภายหลังได้รับข่าวร้ายก็ได้เดินทางมาพร้อมเพรียงกัน เพื่อรอรับศพของนายอำนาจกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดยางตาล ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
เบื้องต้นทางครอบครัวผู้เสียชีวิตกำหนดไว้เป็นเวลา 3 คืน นับตั้งแต่คืนนี้เป็นคืนแรก และจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 3 พ.ค. 68
นางจันทร์แรม กล่าวว่า ความรู้สึกของตนตอนนี้ยังทำอะไรไม่ถูก เพราะว่ามันกะทันหัน มันเร็วมากไม่ทันจะได้ตั้งตัวเลย ตนอยากจะบอกหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้าง ถนนพระราม2 ว่าเรื่องแบบนี้ไม่อยากให้มันเกิดกับใครเลย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบกันอย่างเต็มที่ด้วย เพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวอื่นๆ อีก
โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ทางคุณหมอบอกว่า หลังจากการผ่าตัดแล้วเลือดที่ให้ไปมันซึมไหลออกมาเรื่อยๆ แล้วความดันต่ำลงมาก หมอให้ยากระตุ้นแล้ว แต่ว่าไม่สามารถช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมา โดยหลังจากรับศพแล้วจะพาเขาไปที่บ้านเกิด จัดงานที่วัดยางตาล อ.โกรกพระ
ทั้งนี้ตนก็อยากจะบอกกับดวงวิญญาณสามีว่า ขอให้ไปอย่างสงบ ไม่ต้องห่วงลูกสาว ตนจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้เขาได้ศึกษาในระดับปริญญาตรีตามที่เขาตั้งใจอยากจะเรียนด้านโลจิสติกส์ตามแบบงานของทั้งพ่อและแม่ ให้เขาสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้
นายณัฐพงษ์ บอกว่า ก่อนอื่นตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอำนาจที่ได้สูญเสียผู้เสียชีวิต เพราะเมื่อคืนตนได้ทราบข่าวจากทางน้องชายของนายอำนาจ ตนก็รู้สึกตกใจ และก็แสดงความเสียใจมากๆ เพราะนายอำนาจเป็นทั้งคุณพ่อเป็นทั้งสามี เป็นทั้งพี่ชายและเป็นเพื่อนร่วมงานของใครหลายๆ คน ซึ่งเท่าที่ตนทราบเพื่อนๆ ร่วมงานหลายคนรู้สึกตกใจ และเสียใจ ตนขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
เบื้องต้นตนจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมทางหลวงถึงการรับผิดชอบดูแลเยียวยาค่าเสียหาย และค่าทำศพต่างๆ ให้กับนายอำนาจ เพราะว่านายอำนาจไม่ได้ผิดอะไรเลยที่ขับรถไปทำงานแล้วต้องมาสูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หลังจากนี้ตนคงจะต้องกระทุ้งถามไปถึง รมว.คมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าจะทำยังไงให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย
เราพูดกันบ่อยมากว่าเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโครงสร้างถนน ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม มันต้องไม่มีใครควรเสียชีวิต หรือบาดเจ็บอีกแล้ว ซึ่งตนจะถามว่าพอบาดเจ็บ พอเสียหายแบบนี้จะรับผิดชอบอย่างไร มากไปกว่านั้นทุกวันนี้ คนไม่มีใครอยากใช้ ถนนพระราม2 อีกแล้ว มันกระทบกับเศรษฐกิจชีวิตของคนใน จ.สมุทรสาคร หรือแม้แต่จังหวัดใกล้เคียง
ตนต้องขอวิงวอนจริงๆ เรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน อยากให้เอาจริงเอาจัง และทำให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก มาตรการที่มีอยู่ปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างต่างๆ และมีการบังคับใช้ที่เข้มงวดเพียงพอหรือไม่ อยากให้นึกถึงหน้าพี่น้องประชาชนทุกคน มีครอบครัวมีคนที่เขารักไม่อยากเห็นการสูญเสียอีกแล้ว อีกทั้งยังจะผลักดันเรื่องการดูแลอนาคตทางการศึกษาให้แก่บุตรผู้เสียชีวิตอีกด้วย
ส่วนนายธนสาร สิทธาภา ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งให้ทีมงานศูนย์สะพานตรวจสอบโครงสร้า งและสั่งให้โครงการทำตะแกรงล้อมรอบอีกทีหนึ่ งส่วนผู้เสียชีวิตทางกรมทางหลวงได้ทำการช่วยเหลือ โดยจัดรถเคลื่อนศพไปยังจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ก็ได้มีการเยียวยาช่วยเหลือ ดูแลค่าทำศพในเบื้องต้นก่อน ส่วนค่าเสียหายต้องมาเจราจากันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวสะพานนั้นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสะพานจะมาดูอีกทีหนึ่ง และจะมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้หล่นมาอีกแล้ว จะมีการซ่อมใหญ่เลย ซึ่งจะดูทั่วไป แต่เบื้องต้นจะดูสานจุดเกิดเหตุก่อน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.วิชิต ลุนผา รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าของคดีบอกว่า กฎหมายเป็นเรื่องการดูแลวัสดุอุปกรณ์ ถือว่าเป็นการละเมิดผู้ดูแลต้องรับผิดชอบในทางแพ่ง เป็นการไม่ดูแลอุปกรณ์เครื่องใช้ และไม่บำรุงดูแลรักษาสะพานให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ทำให้เศษปูนเสื่อมสภาพหลุดร่อนลงมาโดนรถ และมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว เมื่อเศษปูนมันอยู่ในการดูแลความรับผิดชอบของแขวงการทาง ดังนั้นแขวงการทางต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้เขา ซึ่งจะเรียกแขวงทางการสมุทรสาครเข้ามาสอบเพิ่มเติม เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement