ตำรวจยังอึ้ง ไอ้คลั่งฆ่า 2 ศพของขึ้นมีพลังมหาศาล สักหนุมานทำพัดลมดับ (คลิป)

จากกรณี นายอิธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมืองในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะขี่รถกลับได้เกิดอาการคลั่งใช้มีดแหลมไล่แทงผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 6 ราย ก่อนถูกตำรวจนำกำลังล้อมจับคนร้ายอยู่หน้าร้านขายยารวมชัยเภสัช ถ.ประจักษ์ศิลปาคม ใกล้กับวงเวียนเฉลิมพระเกียรติ จ.อุดรธานี เหตุเกิดวันที่ 5 ธ.ค. 63

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเตชวัฒน์ งามปัญญา อายุ 37 ปี หมอธรรม ซึ่งมีความรู้เรื่องถอดวิชาอาคมปราบคุณไสย์สายหลวงปู่เครื่อง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี และหลวงปู่พิบูลย์ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี มามากกว่า 10 ปี ได้เดินทางมาทำพิธีถอดคุณวิชาอาคมออกจากตัวนายอิธิพล เนื่องจากหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปสอบสวน พบว่ามีเรื่องแปลกเกิดขึ้น กระแสไฟตกและพัดลมดับ

วันที่ 6 ธ.ค. 63 นายเตชวัฒน์ งามปัญญา อายุ 37 ปี หมอธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ติดต่อมาเพื่อขอคำปรึกษาจากตน เพราะถ้าไม่ติดต่อตนจะไม่เข้าไปยุ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเสื้อผ้าของผู้ก่อเหตุและพบรอยสัก ถอดเสื้อของผู้ก่อเหตุก็พบรอยสักหนุมาน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กลัวว่าถ้าเอาไปขังจะทำร้ายคนอื่นอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องการให้ทำพิธีถอนของ ทำเพื่อความสบายใจ เพราะไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน

ก่อนที่จะทำพิธี ตนได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งพูดปกติดี ถามตอบรู้เรื่อง ตนจึงทำพิธีถอดของให้ โดยทำน้ำมนต์และมีการสวดคาถาถอนของ ก่อนจะให้ดื่มน้ำมนต์

ทั้งนี้ ตนมองว่าผู้ก่อเหตุน่าจะทำไปเพราะเกิดอาการทางด้านจิตใจมากกว่า และเมื่อวานี้อากาศร้อน อาจจะทำให้คลุ้มคลั่งได้ง่าย ส่วนความเรื่องวันเสาร์ที่ 5 บางคนอาจจะมองว่า เป็นวันที่เหมาะแก่การสวดคาถาและทำของขลัง แต่ตนมองว่าเป็นวันที่มงคลมากกว่า

สุดท้ายนี้ ตนไม่อยากจะให้ทุกคนงมงาย และอยากจะให้เป็นเรื่องการสร้างขวัญกำลังใจ เพราะตนเข้าใจความรู้สึกของทุกคน และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ช็อกเมืองอุดรฯ หนุ่มเชือดหมูเมายาไล่แทงคนตาย 2 เจ็บเพียบ โหดปาดคอเลือดเย็น (คลิป)

โดยจุดที่ 1 สี่แยกหลังเรือนจำกลางอุดรธานี ถ.ศรีชมชื่น ตัด ถ.นเรศวร เทศบาลนครอุดรธานี ที่มีภาพกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครอุดรธานี ขณะที่ น.ส.ณัฐวดี อายุ 17 ปี ขี่จักรยานยนต์ซ้อน น.ส.อัญชนา อายุ 16 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มาจอดติดไฟแดง คนร้ายขี่รถมาประกบด้านขวา เอื้อมมือใช้มีดที่พกติดหน้ารถ จ้วงแทงคอคนซ้อนก่อนเสียชีวิต

จากนั้นได้จ้วงแทงคนขี่รถ โดยคนซ้อน ผู้ตาย วิ่งหนีไปหมดสติล้มลงใกล้ ๆ ส่วนคนขี่ยืนนิ่งจับแฮนด์รถไว้ ส่วนรถของคนร้ายที่มีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย เพื่อนของคนร้ายลงจากรถข้ามถนนไป จากนั้นมีรถหน่วยกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี มารับตัว ซึ่ง น.ส.ณัฐวดี คนซ้อน ได้เสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี

จากนั้นคนร้ายขี่รถไปเพียงลำพัง และไปก่อเหตุอีกหลายครั้ง แล้วมาก่อเหตุที่ 2 ที่หน้าร้านเรื่องของปู ถ.นเรศวร แทงน.ส.สิราสินี พรหมกูล อายุ 45 ปี บาดเจ็บที่แก้ม

จุดที่ 3 คนร้ายมาก่อเหตุที่หน้ามัสยิด ถ.ศรีชมชื่น แทงน.ส.ปิยวรรณ กันยาเยี้ยม อายุ 20 ปี บาดเจ็บที่ไหล่ซ้าย

จุดที่ 4 คนร้ายไปก่อเหตุหน้าโรงเรียนบ้านหมากแข้ง เป็น ด.ช.ธนรัฐ อายุ 13 ปี หน้า มีแผลที่คอลึก 1 ซม. ในลักษณะเดียวกันคือ พยายามแทงที่คอ ผู้บาดเจ็บถูกทยอยส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี

จุดที่ 5 บริเวณหน้าร้านนิมิตแอร์ ถ.สุรการ คนร้ายขี่รถตามมาด้านหลัง ใช้อาวุธมีดแทงคอ น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าไอคอน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขวพ 543 อุดรธานี ตกรถเสียชีวิตที่เกิดเหตุ

ส่วนคนร้ายก็ขี่รถไปก่อเหตุอีกจุดที่ 6  ที่หน้าทางเข้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี ถนนโพศรี ผู้บาดเจ็บคือ น.ส.แว่นทิพย์ วงวิลัย อายุ 33 ปี มีแผลที่ไหล่ซ้ายแผลลึกยาว 6 ซม. และน.ส.อรวรรณ บุแสง อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อมมือแล้วนิ้วมือ 

โดยวันนี้ หลังการประชุม พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ 1 ชั่วโมงได้สอบถามผู้ต้องหาที่มีสติสัมปชัญญะ แต่เนื่องจากทางตำรวจต้องการหลักฐานทางการแพทย์ จึงส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ตรวจทางกายภาพปัสสาวะเลือดในร่างกาย รวมทั้งการตรวจจิตเวช ที่จะต้องมีหลักฐานประกอบในการดำเนินคดี ส่วนพยานหลักฐานมีประจักษ์พยานภาพวงจรปิด พยานบุคคล อาวุธมีด

เบื้องต้นได้มีการติดต่อนำญาติของผู้ต้องหามาสอบสวนคือลุง เจ้าหน้าที่มีการสอบสวนพยานไว้แล้ว ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้นส่วนตัวคิดว่าอาจจะมีจูงใจในเรื่องความโกธรแค้นกับเพศผู้หญิงเป็นที่ตั้ง เพราะในการก่อเหตุผุ้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่ก็ยังไม่ทราบข้อมูลลึกว่านี้ เพราะผู้ต้องหายังถามคำตอบคำ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนร่วมกับทางแพทย์เพื่อหาแรงจูงใจที่แท้จริงต่อไป