จากกรณี ด.ญ.แป้ง อายุ 9 ปี ถูกนายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ ก่อเหตุกระทำชำเรา ฆ่าทิ้งร่างไว้ที่ป่าหลังบ้าน ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จนกระทั่งมีคนมาพบเห็น ซึ่งนายอนุวัฒน์เคยก่อเหตุกระทำชำเราเด็กมาแล้วหลายราย และพ้นโทษมาไม่กี่เดือนก่อนมาก่อเหตุซ้ำ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉคดีเก่า "ไอ้แหบ" ตุ๋ยเด็กชาย ญาติเดือดฉุดลูกเข้าป่าติดคุก 5 ปีไม่สำนึกฆ่าอีกศพ (คลิป)
- เปิดกระท่อมจุดไอ้แหบซ่อนตัวหลังฆ่าเด็ก สุดโหดบีบคอสลบก่อนอนาจาร แม่เหยื่อจี้ประหาร (คลิป)
วันที่ 12 ก.พ. 64 พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปักธงชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อชี้จุดทำแผนที่ประกอบสำนวนทั้งหมด ทั้งจุดหลบซ่อนตัว จุดที่ก่อเหตุ 2 จุด และจุดที่พบศพของน้องแป้ง
นายหนุ่ม (นามสมมติ) ผู้พบศพน้องแป้ง เล่าว่า คืนที่เกิดเหตุทราบข่าวว่าน้องแป้งหายตัวไป ตนและเพื่อนอีก 2 คนได้ช่วยออกตามหา โดยถือไฟฉายส่องดูตามทุ่งนา
กระทั่งเวลา 20.00 น. สังเกตเห็นผ้าห่มคลุมร่างเด็กอยู่ที่จุดเกิดเหตุ ขณะนั้นเห็นแค่ปลายเท้า รู้ทันทีว่าต้องเป็นน้องแป้ง จึงเข้าไปเปิดผ้าห่ม เห็นน้องแป้งนอนหงาย ใส่เสื้อผ้าตามปกติ ที่แก้มทั้ง 2 ข้างมีเลือดติดอยู่ ตนจึงรีบอุ้มน้องแป้งไปให้นางจอย ผู้เป็นแม่ เพื่อนำตัวไปส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ตนพบศพช่วงแรกน้องแป้งยังหายใจรวยริน แต่ตัวเย็นแล้ว ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือนายแหบ เพราะเป็นคนเดียวที่กล้าก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสังเกตว่านายแหบจะชอบเล่นกับเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็ก และมักจะอุ้มไปหยอกล้อ ซึ่งตนทราบเรื่องที่นายแหบเคยก่อเหตุและติดคุกเพิ่งออกมา แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุซ้ำอีก
ด้านนางสมจิต ผลจะโปะ ย่าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจเรียกตนเองไปพบกับหลานชาย ตนพยายามสอบถามหลานก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สอบปากคำกับตำรวจ ซึ่งนายแหบเล่าให้ตำรวจฟังพร้อมสาธิตกับตุ๊กตาถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น นายแหบสารภาพว่าทำน้องแป้งจริง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ห้องน้ำ และอุ้มไปก่อเหตุที่จุดพบศพรอบที่ 2 แต่น้องแป้งร้องไห้ จึงมีการบีบคอจนน้องแป้งสิ้นลม หลังก่อเหตุจึงเกิดความกลัว วิ่งหนีกลับมาที่กระท่อมหลังบ้าน
ทั้งนี้ ตนเองยอมรับว่าตนห่วงหลานเหมือนเดิม ตนรู้ชาวบ้านต้องการให้ประหารชีวิต ตนเองก็ได้แต่ทำใจ แต่ตำรวจระบุว่าคงไม่มีการประหาร เพียงติดคุกเท่านั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวล ตนเองให้โอกาสหลานเสมอ หลานก่อเหตุมาหลายครั้ง หากครั้งนี้กลับมาตนเองก็คงต้องเลี้ยงหลานเหมือนเดิม ช่วงที่หลานติดคุก คงไม่ได้ไปเยี่ยม เพราะตนเองเดินทางไปเองไม่เป็น วันนี้ตนตั้งใจไปขมาศพด้วย เพราะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ขณะที่นางฝน (นามสมมติ) เพื่อนบ้านนายแหบ เล่าว่า คืนหลังเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.30 น. ตนเห็นนายแหบเดินกลับมาบริเวณบ้านตัวเอง ได้ตะโกนว่า "เห้ย" เพื่อทักทายตน ขณะนั้นไม่ได้สนใจ แต่สังเกตว่านายแหบเดินเซลักษณะคล้ายคนเมา หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ชาวบ้านพยายามหาตัวนายแหบ ตนจึงทราบว่าเกิดเหตุขึ้น ชาวบ้านได้เข้าไปที่บ้านนายแหบแต่ไม่พบตัวแล้ว คาดว่านายแหบน่าจะไหวตัวทันและพยายามหลบซ่อนตัว
โดยที่ผ่านมานายแหบเป็นคนพูดคุยรู้เรื่อง แต่ตนก็พยายามเตือนลูกหลานให้ระวังตัว เพราะนายแหบเคยก่อเหตุมาแล้ว ทั้งนี้ ก่อนนายแหบจะติดคุกรอบที่แล้ว เจ้าตัวก็ชอบขโมยกางเกงในผู้หญิง ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ตนก็กังวลว่าหากนายแหบติดคุกไม่นานแล้วออกมาอยู่ในหมู่บ้านจะก่อเหตุซ้ำอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ต้องปล่อยออกมาอีก
Advertisement