กรณีนายประเสริฐ ชูทรัพย์ อายุ 60 ปี ถูกพบเป็นศพอยู่ริมถนนสายบ้านควนรา-วิภาวดี สภาพนอนหงาย แต่งกายด้วยเสื้อยืดคอปกสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสามส่วน สีเทา คาดเข็มขัดหนังสีดำ ไม่สวมรองเท้า สูงประมาณ 160 ซม. ผิวขาว ลักษณะผมบางหน้าผากเถิก ที่ใบหน้ามีแผลฉกรรจ์ และศีรษะแตก เลือดไหลนองพื้น
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายพรชัย จินดา หรือ ไข่ อายุ 63 ปี และนายจักรี จันทร์แจ่มใส อายุ 60 ปี เพื่อนร่วมวงเหล้า พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
วันที่ 2 มิ.ย. 64 เวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเสวียด อ.ท่าฉาง พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพ.ต.อ.ปิยวัฒน์ บัวขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสวียด ระบุว่า ผู้ตายชอบดื่มเหล้ากับเพื่อน ไม่มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าวันเกิดเหตุได้ดื่มเหล้ากับผู้ก่อเหตุภายหลังเกิดทะเลาะกันแล้วจึงก่อเหตุดังกล่าว
พฤติการณ์คือ วันเกิดเหตุนายประเสริฐ นายพรชัย และนายจักรี นั่งดื่มเหล้าด้วยกันที่หน้าบ้านเช่าของนายพรชัย ก่อนจะมีปากเสียงกัน นายประเสริฐหยิบขวานที่วางอยู่ในตะกร้ารถจักรยานยนต์ของตัวเองมาฟันนายพรชัย ด้ามขวานโดนแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ นายจักรีจึงเข้ามาช่วยเหลือ มีการแย่งขวานดังกล่าว และทุบที่ศีรษะจนนายประเสริฐล้มลงไป จากนั้นนายพรชัยฟันซ้ำจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นทั้ง 2 คนช่วยกันนำร่างนายประเสริฐขึ้นท้ายรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์ ขับไปทิ้งที่จุดพบศพ จากการสอบถามผู้ต้องหาระบุว่าไม่ได้วางแผนนำศพไปทิ้งที่จุดดังกล่าว หรือต้องการอำพรางคดีให้เป็นอุบัติเหตุ แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงต้องนำศพไปทิ้ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายพรชัย จินดา และนายจักรี จันทร์แจ่มใส ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกบริเวณหน้าบ้านเช่านายพรชัย ซึ่งเป็นจุดที่ทั้ง 3 คนนั่งกินเหล้ากัน ก่อนจะเริ่มมีปากเสียง
ซึ่งระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดนี้ ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุจูงใจ นายพรชัยตอบเพียงว่า "นายประเสริฐฟันผมก่อน" เมื่อทีมข่าวถามว่าอยากขอโทษผู้ตายหรือไม่ นายประเสริฐไม่ตอบคำถาม
ระหว่างนั้น น.ส.กรรวี ชูทรัพย์ อายุ 38 ปี ลูกซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรกของผู้ตาย นางเกศิริ จันทร์พฤกษ์ อายุ 34 ปี ลูกสาวจากภรรยาคนที่ 6 และนางธันยพร สังข์คร อายุ 36 ปี ลูกสาวอีกคนของผู้ตาย เดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย ต่างร้องไห้ที่เห็นภาพจุดเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปยังจุดทิ้งศพ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 26 กิโลเมตร
ส่วนจุดนี้ ทั้ง 2 คนช่วยกันยกผู้ตายลงจากรถทิ้งไว้บนถนนช่วงทางโค้ง ก่อนจะขับรถกลับบ้านตามปกติ ทีมข่าวพยายามสอบถามนายพรชัย ถึงเหตุผลที่นำศพมาทิ้งบริเวณนี้ แต่เจ้าตัวไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ ลูกสาวผู้ตายได้เดินมาดูจุดที่พบคราบเลือด และร้องไห้ออกมาตลอดเวลา
น.ส.กรรวี ชูทรัพย์ อายุ 38 ปี ลูกซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรก, นางเกศิริ จันทร์พฤกษ์ อายุ 34 ปี ลูกสาวจากภรรยาคนที่ 6 และนางธันยพร สังข์คร อายุ 36 ปี ลูกสาวอีกคนของผู้ตาย เดินทางมาที่ สภ.เสวียด ตั้งแต่เวลา 11.30 น.
นางเกศิริ กล่าวว่า ตนอยากมาดูหน้าคนร้าย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้แล้ว อยากถามว่าเหตุที่เกิดในวงเหล้าถึงขั้นต้องทำกันรุนแรงขนาดนี้เลยหรือไม่ เพราะดูจากสภาพการตายของพ่อ ดูรุนแรงมาก ส่วนผู้ต้องหาตนไม่รู้จัก ทราบจากญาติของพ่อว่านายพรชัยก็เป็นญาติห่าง ๆ กัน ตนคิดว่าไม่น่าจะต้องทำกันขนาดนี้ การที่อีกฝ่ายอ้างว่าพ่อตนทำร้ายตัวเองก่อน ตนคิดว่าพ่อไม่ได้จงใจจะฆ่า แต่อีกฝ่ายกลับกระหน่ำฟันพ่อจนถึงแก่ชีวิต ตนรับไม่ได้
อีกทั้งสภาพร่างกายของพ่อที่เป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ มือเท้าข้างขวาชาใช้การได้ไม่เต็มที่ ก็คงไม่สามารถทำร้ายคนอื่นได้
หากพ่อตนทำผิดจริงก็น่าจะแค่ชกต่อยหรือตีสั่งสอน แล้วเอาตัวไปส่งให้ญาติพี่น้อง ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ตนปวดใจมาก อยากให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้รับโทษสูงสุดทางกฎหมาย และอยากให้รู้ว่าคนเป็นลูกผู้ตายทรมานใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น
Advertisement