จากกรณีเฟซบุ๊ก เจ๊ม้อยv plus โพสต์คลิปชายฉกรรจ์รวม 5 คน สวมเสื้อบริษัทแห่งหนึ่งถืออาวุธลงไปข่มขู่หญิงสาวและถีบประตูรั้วเหล็กของบ้านดังสนั่น โดยบรรยากาศในคลิปบันทึกภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เข้าไปฟันทุบประตูเหล็กบ้าน จนประชาชนในพื้นที่ต่างต้องวิ่งหลบหลีก รวมเด็กน้อยในเหตุการณ์วิ่งร้องโฮ แต่ผู้ก่อเหตุก็ไมหยุด และยังข่มขู่ต่อว่าตะคอกใส่ผู้หญิงดังว่า "นี่รถมันใช่ป่าว จอดรถขวางก็ต้องขยับ ไม่ขยับรถก็เข้าไม่ได้ ออกมาสิ ออกมา"
ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานเวลาประมาณ 17.00 น. ตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุมีลูกค้าเอางานส่งจึงจอดรถ แต่ฝั่งบ้านที่เกิดเหตุยังไม่มีรถจอด จนลูกค้ากำลังจะกลับแต่รถน้องชายบ้านที่เกิดเหตุก็วิ่งมาจอดหน้าบ้านพอดี จึงเหลือทางตรงกลางแคบๆ และเป็นจังหวะที่รถของผู้ก่อเหตุที่ตามหลังมาจะตรงเข้าซอยไป รถผู้ก่อเหตุบอกว่าไปไม่ได้ และนายเหน่ง อายุ 39 ปี น้องชายบ้านที่เกิดเหตุอีกคน ก็วิ่งมาโบกรถให้ ผู้ก่อเหตุ 2 คน ก็ด่าว่า "ขับรถเ_ี้ยแบบนี้ก็ชนเลย" น้องชายที่โบกรถจึงมีปากเสียงกัน นายเหน่ง จึงโต้กลับว่าทำไมพูดแบบนี้ จนมีปัญหาทะเลาะชกต่อยกันแต่สุดท้ายคู่กรณีทั้ง 2 แยกตัว ขณะน้องแม่เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุก็กลัวจึงรีบล็อกบ้าน ไม่ทันไรกลุ่มคู่กรณีก็ยกพวกมาก่อเหตุตามคลิป
วันที่ 3 ก.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซอยรามคำแหง 54 กรุงเทพฯ เป็นซอยที่มีบ้านพักอาศัยและสำนักงาน อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นติดกัน
นางแตน (นามสมมติ) อายุ 65 ปี แม่ยายนายเปา ผู้บาดเจ็บ เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบ้านเกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนเองยังไม่ได้ปิดบ้าน แต่ข้างบ้านมาเรียกบอกว่าแม่เร็ว ๆ ตนก็ถามกลับว่ามันมาจริงหรือ พอมองออกไปก็พบว่ากลุ่มชายคนร้ายที่เป็นคนส่งของก็วิ่งมา ตนรีบปิดประตู 2 ชั้น
กลุ่มชายคนร้ายก็ตีประตู ตนเอามามือจับไว้ ดีที่ประตูไม่หลุด ไม่เช่นนั้นตนคงโดนตีไปได้ เพราะขนาดลูกชายมายกมือไหว้ แต่คนร้ายก็ไม่ยอม สุดท้ายถูกฟัน ตนเห็นลูกชายนอนสลบไปเลย ทั้งนี้ ยอมรับมาช็อกตกใจมาก ตอนนี้ก็ยังกลัว โชดดีมีคนถ่ายคลิปไว้ให้ ตอนนี้ยังมีอาการเหนื่อยอยู่เลย เพราะยังไม่ได้นอนเลย ส่วนเรื่องการจอดรถยืนยันว่านานลูกชายมาหา และจะจอดหน้าบ้าน ไม่ได้ขวางใคร มากี่ครั้งก็จอดหน้าบ้าน ทางก็สามารถสัญจรไปได้ปกติ แต่วันนั้นบังเอิญมีลูกค้ามาจอดอีกฝั่ง ถนนมันเลยแคบ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ยังกลัวมาก กลัวถูกมาหาเรื่องอีก แต่ทั้งลูกชายลูกสาวบอกแล้วว่าถ้าตายก็ตายครั้งเดียว และไม่กล้าไปพูดตักเตือนอะไรทั้งนั้นแล้ว
นายเหน่ง อายุ 39 ปี กรณีกลุ่มชายฉกรรรจ์ น้องเมียนายเปา ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดนอนอยู่บ้านตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ น้องชาย หรือ นายหน่อยมา ตนจึงลุกมาบอกน้องให้จอดหน้าบ้าน จากนั้นน้องก็ไปซื้อน้ำอัดลม แต่พนักงานขนส่งที่มาขับรถกัน 2 คน กลับพูดออกมาจากรถว่ารถไปไม่ได้ ตนจึงโบกรถให้ บอกว่าไปได้ แต่พูดเสียงดัง เพราะเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่มีการใส่อารมณ์ แต่ผู้ก่อเหตุกลับพูดว่า "ชนเลยๆ" จากนั้น น้องเดินมาจากร้านค้าพอดี ชายก่อเหตุวิ่งมาล็อกคอและต่อยตนเอง จากนั้นน้องชายก็วิ่งมาช่วย และต่อยกักัน
อีกฝ่ายถือเหล็กมาจากรถมาตีน้องชายจนมือบวม ตนจึงวิ่งไปช่วยน้อง อีกฝ่ายยกมือไหว้ ตนเองจึงยอม แต่ทั้งคู่พูดทิ้งท้ายว่า "เดี๋ยวกูมา" ตนเองจึงกลับเข้าบ้าน และก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไร ได้ยินแต่เสียง และการที่ไม่ออกมาก็เพราะไม่อยากมีปัญหาต่อ ซึ่งสุดท้ายมารู้ว่าพี่เขยถูกฟันก็ตกใจมาก ทั้งที่เหตุการณ์เรื่องโบกรถก็มีปากเสียงชกต่อยกันไปแล้ว อีกทั้งตนไม่ได้พูดหรือด่าแบบหยาบคายเลย รวมถึงที่ผ่านมาตนอยู่ที่นี่ 10 กว่าปีไม่เคยมีปัญหา ส่วนซอยก็แคบอยู่แล้ว
ล่าสุด เวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มผู้เสียหาย ได้เดินทางมายัง สน.หัวหมาก เพื่อเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี นายสุ (นามสมมติ) เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มาด้วย อาการตอนนี้อาการยังคงมึน ๆ ปวดหัวจากการโดนฟันและโดนเย็บ 9 เข็ม ขา และแขนมีแผลถลอก ยอมรับว่าไม่รู้จักกับกลุ่มชายฉกรรจ์แน่นอน
Advertisement